“อิ๊งค์” ประชุมผู้ว่าฯ นายก อบจ.ทั่วประเทศ ในสนามช้าง บุรีรัมย์

นายกฯฝากผู้ว่าฯจับมือ อบจ. ขับเคลื่อนงานสอดรับนโยบายรัฐบาล ย้ำ 4 ประเด็น “พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน-ยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด-จัดเก็บรายได้-ร่วมมือภาครัฐ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี พร้อมให้คิวคุยกับผู้ว่าฯจังหวัดอื่น ลั่น อายุน้อยพลังยังเหลือ ด้าน “เนวิน” รอต้อนรับ พร้อมพาทัวร์ช้างอารีน่า ก่อนปิดห้องคุย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทยและคณะ เดินทางมาเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เข้าร่วม

นายกฯกล่าวเปิดการประชุมว่า ดีใจที่ได้มาเจอทุกท่าน แค่ได้มาพบเจอก็รู้สึกสีสันถึงความสุข ทุกคนใส่ผ้าไทยกันได้สวยงามมาก และมั่นใจว่าทุกคนจะเป็นตัวแทนในการขายผ้าไทยของเราไปให้ทุกกลุ่มและทั่วโลก

วันนี้ขอแสดงความยินดีกับนายก อบจ.ที่ผ่านการเลือกตั้งมา และได้มาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านอีกครั้ง วันนี้ได้มีโอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งโครงการประชุมเชิญปฏิบัติการการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เจอทุกท่าน มั่นใจว่าในส่วนของท้องถิ่นที่มีตำแหน่งทุกคนทำงานใกล้ชิดกับประชาชน นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำงานและมอบนโยบายไปนั้น คนที่สามารถทำให้นโยบายเกิดได้คือผู้ว่าฯและนายก อบจ. วันนี้รีแลกซ์ได้เพราะไม่ใส่เครื่องแบบ แม้จะใส่ผ้าไทย เรายิ้มให้กันได้

ADVERTISMENT

นายกฯกล่าวว่า หลายจังหวัดที่ได้ไปพบกับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดได้เจอกับผู้ว่าฯที่มาสรุปสั้น ๆ ให้ทราบว่ามีอะไรในจังหวัดบ้าง ทำให้เห็นว่าผู้ว่าฯ ทำงานกับพี่น้องประชาชนจริง ๆ และสามารถเห็นปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมามีเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ ผู้ว่าฯ คือคนสำคัญที่สามารถใช้งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและสามารถเข้าถึงแต่ละบ้านให้รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรกับท้องที่

ส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และจะสำคัญยิ่งขึ้นเพราะเราจะทำอย่างไร ที่จะทำให้ผู้ว่าและนายกฯ อบจ. สามารถร่วมมือกันเรื่องนโยบายให้มีทิศทางเดียวกันเพื่อพัฒนาจังหวัดนั้นไปในทางที่ตรงกัน เพราะฉะนั้นความสามัคคีและการสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญ

ADVERTISMENT

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้หลายจังหวัดมีปัญหาเช่นภาคเหนือ เรื่องฝุ่น PM 2.5 ล่าสุดมีเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่ทางภาคเหนือ ที่ใหญ่คือกรุงเทพฯ แต่ไม่ได้มีผลกระทบทั้งหมด เป็นเพียงไซต์งานตึกหนึ่งที่มีปัญหา แต่ไม่ว่าจะเกิดกับจังหวัดไหน ทุกคนมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่น และเป็นภาพที่แข็งแรงมากขึ้น อย่าคิดว่าเราเป็นจังหวัดเล็กเทียบกับจังหวัดใหญ่

ไม่ได้สมมุติว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในจังหวัดเล็ก ๆ ก็จะมีผลทั้งสิ้น เพราะทุกจังหวัดคือประเทศไทย ทุกคนมีส่วนทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าแข็งแรง ฉะนั้นต้องขอความร่วมมือทุกคน และรัฐบาลอยากจะจัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึงและเหมาะสมที่จะไปทำนโยบายต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด และพร้อมร่วมมือกับทุกคน

นายกฯกล่าวว่า เรื่องที่อยากมาพูดคือให้ผู้ว่าฯและนายก อบจ.ร่วมมือทำให้ตรงกัน ประเด็นแรก คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านการศึกษา สาธารณสุขการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมสำคัญมาก เพราะทั่วโลกพูดถึงพลังงานสีเขียว จังหวัดไหนที่อยากเน้นการท่องเที่ยวจะต้องโฟกัสเรื่องพลังงานสีเขียวด้วย เพราะโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงไปและมีเทคโนโลยี AI เข้ามา จะใช้พลังงานจำนวนมาก เราจะเซฟพลังงานได้อย่างไร เช่น เรื่องรีไซเคิล การประหยัดพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ อยากให้ทุกคนคำนึงเรื่องนี้ให้มาก

นอกจากนั้นอยากเน้นเรื่องการศึกษา ที่จะเป็นการเตรียมคนไปสู่อนาคตที่เข้มแข็ง ประเทศเราขาดการพัฒนาตัวบุคคล ดังนั้นเราจะเตรียมบุคคลรุ่นต่อไปอย่างไรให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราต้องเรียนแบบเร่งด่วนเมื่อไปฝึกงานในบริษัทใหญ่ และเมื่อไปทำงานในบริษัทจากต่างประเทศ เราได้ประสานเพื่อให้เทรนคนของเราให้มีทักษะเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลมีโครงการโอดอส ให้เด็กเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย และส่งเสริมให้เรียนจนจบในภาควิชานั้น เพื่อให้น้อง ๆ ไม่หลุดจากการศึกษารัฐบาลพยายามผลักดันในเรื่องนี้

ประเด็นที่ 2 จัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดร่วมกัน เพื่อให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีวิสัยทัศน์และทิศทางในการพัฒนาเดียวกัน โดยประสานและสื่อสารกันเพื่อให้ทิศทางการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่นจังหวัดใกล้เคียงกัน หากร่วมมือกันได้จะเป็นเรื่องดีและตนพร้อมรับฟังถ้าอยากเสนออะไรใหม่ ๆ ขอให้เสนอผ่านมาที่รองนายกฯอนุทิน ปัญหาที่เจออาจจะต่างกัน ถ้าผู้ว่าฯหรือนายก อบจ. มีโปรเจ็กต์อะไรที่จะช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นก็ขอสนับสนุน

ประเด็นที่ 3 การจัดเก็บรายได้รายจ่ายและการขอรับงบประมาณจากส่วนกลาง ให้สอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลและความต้องการของประชาชน รัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เช่น เรื่องยาเสพติด เราอยากให้ทุกที่ปลอดยาเสพติด เพราะถ้าเรามีประชาชนที่เข้มแข็ง แข็งแรง เราจะพัฒนาประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น ต้องฝากทุกจังหวัดช่วยดูเรื่องยาเสพติดให้เข้มข้น เพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลเน้นมาตลอด และจะเน้นไปจนให้ยาเสพติดหมดไปให้ได้

ประเด็นที่ 4 การสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อให้บรรลุตามแผน ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินงาน และมีผลต่อการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป ในปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.04

นายกฯกล่าวว่า อยากให้ทุกคนเน้นในเรื่องการทำประโยชน์ให้ประชาชน เรามีหน้าที่ตรงนี้ สวมหมวกเป็นผู้ดูแลท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ขอย้ำว่าผู้ว่าฯคือตัวแทนของรัฐบาลไปในที่ต่าง ๆ ที่จะทำให้นโยบายจากรัฐบาลกลางไปถึงประชาชนทุกคน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน และทำงานให้ใกล้ชิดกัน และผู้ว่าฯจังหวัดอื่น สามารถขอเวลาจากทีมงานนายกฯ ถ้าอยากให้ไปจังหวัดไหน เพื่อที่จะได้รู้ปัญหาของแต่ละจังหวัด และจะได้แอ็กทีฟในการทำงาน เมื่อเป็นนายกฯที่อายุน้อยในประวัติศาสตร์ ก็จะมี Energy เยอะจะได้ปรับเปลี่ยนกันไป

ภายหลังนายกฯกล่าวมอบนโยบายเสร็จสิ้น นายเนวินได้ออกจากห้องรับรองเพื่อมารอรับนายกฯ พร้อมระบุว่า มารับในฐานะเจ้าบ้าน

จากนั้นนายเนวินพา น.ส.แพทองธารเดินทัวร์สนามเข้าไปห้องต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น ห้องรับรองสื่อมวลชน ที่มีจอมอนิเตอร์สำหรับการแข่งขัน และยังได้พานายกฯออกไปยังอัฒจันทร์รับชมการแข่งขัน โดยช่วงหนึ่ง นายโชติชนก ชิดชอบ หรือแน่น บุตรชายคนเล็กของนายเนวิน ได้อธิบายวิธีดูความเรียบร้อยในสนาม พร้อมทดสอบระบบการควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรลให้กับนายกฯดู ก่อนที่นายเนวิน นายอนุทิน จะนำ น.ส.แพทองธาร น.ส.ธีรรัตน์ น.ส.ซาบีดา และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าไปพูดคุยยังห้องประชุมเป็นการส่วนตัว ประมาน 10 นาที จากนั้นนายเนวินเดินมาส่ง น.ส.แพทองธารขึ้นรถกลับ