
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ-3 กระทรวง คัดค้านรัฐบาลเปิดนำเข้าสุกรจากสหรัฐ มองเป็นการทำลายระบบผู้เลี้ยงไทย หลังถูกกดดันเรื่องภาษี แนะนำเข้าส่วนที่ขาด ข้าวโพด-กากถั่วเหลืองแทน ชี้จะได้แบบ Win-Win
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและเครือข่ายผู้เลี้ยงสุกรมารวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ 3 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ขอคัดค้านการเปิดให้นำเข้าสุกรจากสหรัฐอเมริกาเข้ามายังประเทศไทย เพราะมองว่าจะเป็นการทำลายคนเลี้ยงไทย หลังสหรัฐกดดันไทยด้วยการประกาศขึ้นภาษี
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ผู้เลี้ยงสุกรมารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อคัดค้านการนำเข้าสุกรจากสหรัฐอเมริกา เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีการเลี้ยงสุกรที่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศอยู่แล้ว
แม้ปัจจุบันต้นทุนการเลี้ยงสุกรไทยสูงกว่าสหรัฐ เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ไทยสูงกว่า แต่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงกว่า เพราะอาหารสัตว์ของสหรัฐอาจมีสารเร่งเนื้อแเดงจนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค หากรับประทานสะสมทุกวัน ฉะนั้นหากมีการนำเข้าสุกรจากสหรัฐจะทำให้ผู้เลี้ยงสุกรไทยกว่า 200,000 รายได้รับผลกระทบ และทำให้ระบบผู้เลี้ยงสุกรไทยได้รับผลกระทบด้วย
นายสิทธพันธ์กล่าวอีกว่า เพื่อให้รัฐบาลทำงานง่ายขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลของสหรัฐ โดยหวังลดการขาดดุลทางการค้ากับนานาประเทศ ฉะนั้น แค่เราหันมาซื้อสินค้าเขามากขึ้น การใช้มาตรการทางภาษีศุลกากรก็น่าจะปรับมาในอัตราปกติได้
โดยเราอาจจะเปลี่ยนแหล่งกำเนิดพืชอาหารสัตว์ มาซื้อจากสหรัฐมากขึ้น ก็จะทำให้การเจรจาของรัฐบาลไทยดียิ่งขึ้น
สมาคมได้ศึกษาข้อกฎหมายในการประกาศดังกล่าว ที่เป็นการเร่งแก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้าของประเทศของสหรัฐ
ซึ่งข้อเสนอในการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี กากถั่วเหลือง และ DDGS เพิ่มในลักษณะเปลี่ยนถิ่นกำเนิดของการนำเข้าเป็นสหรัฐอเมริกา ที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับสหรัฐ ในการส่งสินค้ามายังประเทศไทยได้เป็นจำนวนถึง 84,000 ล้านบาท หรือ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ตามข้อเสนอของสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ฉบับลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
นายสิทธิพันธ์กล่าวเพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหาดังกล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไม่สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมใด ๆ ในประเทศ โดยประเภทสินค้าที่สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้นำเสนอจะไม่เป็นการสร้างผลกระทบให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืช เพราะเป็นการนำเข้าในจำนวนที่ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศเท่านั้น
การยื่นข้อเสนอของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ มีแนวทางแก้ปัญหาการเกินดุลกับสหรัฐ ตามแนวทางเดียวกับสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ โดยขอให้รัฐบาลละเว้นการพิจารณาที่จะนำเข้าสินค้าสุกร ทั้งเนื้อสุกรและเครื่องในเข้ามายังประเทศไทย ที่จะสร้างปัญหาให้กับผู้เลี้ยงสุกรของไทย
หลังจากเผชิญปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในช่วงปี 2563-2565 และปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าสุกรอย่างมากในช่วงปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็น 2 วิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมสุกรไทย
สินค้าสุกรของประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนหลักของประเทศ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ตั้งแต่รองรับพืชผลทางการเกษตร วัตถุดิบอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สุกร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างมากมาย มีมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อปีทั้งระบบกว่า 3 แสนล้านบาท