เพื่อไทย ไม่หนักใจ ‘ร่าง กม.คอมเพล็กซ์’ เข้าสภาสมัยหน้า ลุยแจง ปชช.

ประเสริฐเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช. ก่อนดันร่าง พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์ เข้าสภาสมัยหน้า ยันแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่หนักใจ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงคัดค้านร่างกฎหมายประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ได้เสนอให้ทำประชามติ ขอความเห็นจากประชาชนก่อนนั้น

นายประเสริฐกล่าวว่า ถือเป็นความเห็นของ สว. ซึ่งตนเข้าใจว่าเมื่อวานมีการประชุม และสรุปออกมาเป็นญัตติของ สว.คนหนึ่ง แต่วันนี้รัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปแล้ว

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร นายประเสริฐกล่าวว่า ช่วงนี้สภาอยู่ระหว่างปิดสมัยการประชุม และร่างก็ยังไม่ตกไป ซึ่งยังอยู่ในระเบียบวาระ โดยสภาจะปิดสมัยประชุมประมาณ 60 วัน

เมื่อถามต่อว่าจะสามารถเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวในสมัยประชุมหน้าได้หรือไม่ เนื่องจากจะมีคนคัดค้านอยู่ นายประเสริฐระบุว่า เมื่อตัวร่างเข้าไปอยู่ในระเบียบวาระแล้ว ตนคิดว่าสภาจะพิจารณาตามความเหมาะสม ว่า จะดำเนินการตอนไหน

เมื่อถามต่อว่า กังวลหรือไม่ว่ากลุ่มคัดค้านจะลุกลามบานปลาย นายประเสริฐ ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะหลายกลุ่ม หลายคน ยังไม่เข้าใจในสาระสำคัญ ซึ่งมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้

ส่วนจะทำความเข้าใจกับคนเห็นต่างในช่วงปิดสมัยการประชุมสภาได้หรือไม่ นายประเสริฐย้ำคำเดิมว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แสดงว่าในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าที่ผ่านมามีการสื่อสารไประดับหนึ่งแล้ว เช่น สภามีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ซึ่งผลการศึกษาพบว่าเห็นด้วย และหลังจากนั้นก็มีการทำความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งก็ผ่านขั้นตอนเหล่านั้นมาแล้ว

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะใช้เวลา 2 เดือนในการชี้แจงประชาชน พรรคเพื่อไทยจะต้องชี้แจงประชาชนด้วยหรือไม่ นายประเสริฐระบุว่ากฎหมายทุกฉบับ ต้องชี้แจงกับประชาชน หากเข้าใจคงไม่มีอะไร

ขณะที่การพบกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ในการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) คิดว่ากฎหมายดังกล่าวจะสะดุดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าไม่มีอะไร เพียงแต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งทางแกนนำพรรคก็ไม่ได้หนักใจอะไร พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร โดยยังมีเรื่องเร่งด่วนอีกหลายเรื่อง