
นายกฯ ย้ำต้องทำความเข้าใจพรรคร่วม ปม ‘คอมเพล็กซ์’ หวังนึกถึงประโยชน์ประเทศมาก่อนเกมการเมือง แจงชะลอตัว 10% ไม่ได้ เหตุเงินสร้าง Man-Made Tourism ขนาดใหญ่เงินหมุนคืนทุนไม่ทัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า หากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย โอกาสของประเทศที่ควรจะได้เดินหน้าไปต่อ ที่จะสร้าง Man-Made Tourism ที่ยิ่งใหญ่ เพราะขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ก่อนย้ำว่า ไม่ใช่กาสิโน ซึ่งในขณะนี้ทุกประเทศมุ่งไปทางการสร้าง Man-Made Tourism กันหมดแล้ว เนื่องจากสิ่งที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอ เมื่อเศรษฐกิจฝืดเคืองเม็ดเงินเข้ามาไม่ทัน เพราะฉะนั้นจะต้องทำทุกวิถีทาง
ส่วนในเรื่องเกมการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราต้องโฟกัสเรื่องการทำงานและเรื่องเศรษฐกิจด้วย ซึ่งก็จะเดินหน้าทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด และคิดว่าระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาน่าจะเพียงพอที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจตรงกัน
ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาระบุว่าหากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เกิดไม่ทันในระบบรัฐบาลนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีมั่นใจในเรื่องนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่าต้องดูในกระบวนการ แต่ไม่อยากให้มองว่าเป็นแบบนั้น มองเน้นไปว่าเป็นกาสิโน
พร้อมถามย้ำคนที่บอกว่าไปเล่นการพนัน ไปเล่นกันที่ไหน ถูกกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งส่วนนี้ต้องนำมาเข้าระบบ เงินที่นำไปเล่นในกาสิโนต้องถูกจ่ายภาษีให้รัฐ นำมาใช้ประโยชน์ เช่น การสร้างสเตเดียม สำหรับคอนเสิร์ตขนาดใหญ่
พร้อมระบุว่า ตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี 7 เดือน พลาดใหญ่ ๆ ไปเยอะมาก เนื่องจากไม่มีสเตเดียมขนาดใหญ่มารองรับการจัดงานคอนเสิร์ตที่ทุกคนชอบ เป็นแฟนคลับ ก็ไม่มาจัด เพราะมีพื้นที่ไม่พอ ซึ่งงบประมาณในการสร้างเป็นพันล้านหมื่นล้าน แค่การขายตั๋วไม่สามารถคืนทุนได้ จึงต้องนำเงินส่วนนี้ มาทำให้เศรษฐกิจภาพใหญ่เกิดการหมุนเวียน แต่หากถูกนำไปบิดเป็นเรื่องการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนเกมการเมืองมาจากที่ใดนั้น นายกรัฐมนตรีมองว่ามาจากทุกที่และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติก่อนเรื่องของเกมการเมือง
ส่วนจะมีการกำชับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร เพราะ สส.ในพรรคและสมาชิกหลายคนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว อย่าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็มีการออกมาแสดงท่าทีวานนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่าก็คงต้องอธิบายให้เข้าใจ ว่าความตั้งใจจริง ๆ คืออะไร เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่แรกแล้ว
ขณะที่พรรคประชาชาติที่ระบุว่าเรื่องนี้ขัดกับหลักศาสนา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงต้องอธิบายเรื่องนี้อย่างจริงจัง และย้ำสัดส่วน 10% ของโอกาสที่จะทำให้ประเทศมีเงินเข้าระบบมากขึ้นจำนวนมาก ก็น่าเสียดาย แต่ตนจะทำให้เต็มที่
ส่วนใน 10% ที่เป็นสัดส่วนของกาสิโนอาจจะมีการชะลอไว้ก่อน โดยสร้างส่วนอื่นที่เป็นภาพใหญ่ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปก่อนได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องดูในกระบวนการ เพราะอาจจะไม่มีเงินมาจ่ายทั้งหมด และงบประมาณที่ลงไปก็จะไม่มีเงินหมุนกลับมา อย่างโรงแรมกว่าจะคืนทุนใช้เวลา 5-10 ปี และเชื่อว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ขนาดใหญ่เงินจะหมุนกลับมาไม่ทันแน่นอน
นายกรัฐมนตรียังยอมรับว่า ที่ผ่านมาการสื่อสารอาจยังไม่เพียงพอ ก็เลยทำให้ถูกบิดเบือน และย้ำว่าขั้นตอนการทำประชามติขณะนี้ยังไม่จำเป็น และจะต้องไปปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีบ่นว่า “หัวจะปวด” หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่าจำไม่ได้ พูดมั้ง แต่เมื่อเวลางานยุ่งก็จะพูดคำว่าปวดหัว หัวจะปวด แต่ยืนยันว่าไม่ได้ท้อ แต่เป็นการบ่นแบบขำ ๆ เพราะมีงานมากมายหลายสิ่ง พร้อมถามกลับว่าทุกคนพูดคำนี้กันไหม