ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง ณฐพร ให้ฟัน กกต. ปมฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนญไม่รับคำร้องณฐพร โตประยูร วินิจฉัย กกต.จัดเลือกตั้ง สว.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ พร้อม อนุญาตให้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เป็นผู้มีอำนาจแทน สว.คดีเอาผิด ภูมิธรรม-ทวี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายณฐพร โตประยูร และคณะรวม 10 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 จากกรณีอ้างว่าถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ถูกร้อง ที่จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567

ตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนถึงการประกาศรับรองผลไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หลักนิติธรรม และกระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 5 มาตรา 107 และมาตรา 108

โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏว่าคำร้องเรียนที่นายณฐพรและคณะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น เป็นคำร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) มิใช่การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 อีกทั้งที่อ้างว่าตนและคณะถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่านายณฐพรและคณะไม่ใช่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงอันเกิดจากการกระทำของ กกต.

กรณีไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง ประกอบกับการกระทำของ กกต.เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย หากนายณฐพรและคณะเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพอาจใช้สิทธิทางศาลได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรคสาม

ส่วนกรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่เริ่มกระบวนการ จนถึงการประกาศรับรองผลใช้บังคับมิได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 นั้น รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น นายณฐพรและคณะไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213

ADVERTISMENT

ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาในคดีที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และ สว.รวม 92 คนเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) โดยกล่าวอ้างว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ผู้ถูกร้องที่ 1) ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ผู้ถูกร้องที่ 2) ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เสนอเรื่องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. พ.ศ. 2567 ต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ

เพื่อมีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว.ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงถือได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

ADVERTISMENT

ต่อมา พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ และ สว.รวม 92 คน เข้าชื่อเสนอหนังสือขอส่งคำร้องเพิ่มเติม ฉบับลงวันที่ 2 เม.ย. 2568 ต่อผู้ร้อง เพื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องฉบับลงวันที่ 19 มี.ค. 2568 รวมถึงเอกสารแนบท้ายคำร้องขอมอบอำนาจให้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เป็นผู้มีอำนาจดำเนินการใด ๆ ทั้งปวง ในคดีนี้แทนคณะ สว.ทุกคนจนเสร็จการ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยไปยังผู้ถูกร้องทั้งสอง

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ดังนี้ 1.อนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขเพิ่มเติมคำร้อง ฉบับลงวันที่ 19 มี.ค. 2568 รวมถึงเอกสารแนบท้ายคำร้อง พร้อมส่งสำเนาคำร้องเพิ่มเติมคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้งสองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 55

2.ยกคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 37, 38, 40

นอกจากนี้ รับทราบว่า พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เป็นผู้มีอำนาจขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องหรือคำร้องเพิ่มเติม ยื่นบัญชีระบุพยานต่าง ๆ ยื่นคำร้อง ทำแถลงการเปิดและปิดคดี คำแถลง คำชี้แจง ให้การ ให้ถ้อยคำ หรือให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น และเบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดำเนินกระบวนพิจารณา หรือดำเนินการใด ๆ ทั้งปวง ในคดีนี้ต่อผู้ร้องแทนคณะ สว.ทุกคนจนเสร็จการ