สรวงศ์ คุย อนุทิน หลัง ไชยชนก ลั่นไม่เอากาสิโน ชี้ยึดมติพรรค ไม่สะกิดใจร่วม รบ.

เลขาฯ เพื่อไทย เผยคุย ‘อนุทิน’ แล้วหลัง ‘ไชยชนก’ ประกาศกลางสภาไม่เอากาสิโน ชี้เป็นความความเห็นส่วนตัว ถึงเวลาต้องยึดมติพรรคภูมิใจไทย เชื่อไม่สะกิดใจกันระหว่างพรรคร่วม

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาไม่มีวันยกมือโหวตร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า ตนเองได้เจอกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่รัฐสภาแล้ว โดยนายอนุทินได้มีการให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้แล้วว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรคภูมิใจไทย และเมื่อถึงเวลาโหวตจริง ๆ ก็ต้องทำตามมติของพรรค พร้อมเชื่อเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดความสะกิดใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล

“เราเอาคำของหัวหน้าพรรคเป็นหลัก เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรคว่าอย่างไร เราก็ว่าอย่างนั้น ซึ่งเรามีการพูดคุยกัน คิดเห็นไม่ตรงกันได้ แต่เมื่อถึงเวลาเป็นมติพรรคก็ต้องเป็นมติพรรค และยังไม่ได้พูดคุยกับทางนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจตลอดทั้งวัน”

ส่วนจะต้องมีการทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะ สส.ที่เป็นมุสลิมหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าเราเข้าใจในหลักศาสนา แต่ก่อนที่จะทำความเข้าใจกับประชาชน ก็ต้องทำความเข้าใจกับพรรคร่วมด้วยกันก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วอยากให้มองข้ามเรื่องของกาสิโน ซึ่งเคยย้ำหลายครั้งแล้วว่าเป็นกรอบกฎหมายที่ประเทศไทยและรัฐบาลไทยจะออกกรอบกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทย

ไม่ใช่รัฐบาลไทยจะสร้างกาสิโนหรือสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เสียเอง ซึ่งเราวางกรอบไว้ เผื่อมีใครสนใจมาลงทุน หากนักลงทุนอ่านกฎหมายแล้วมีข้อบังคับเยอะก็อาจจะไม่สนใจก็ได้ แต่เบื้องต้นเราต้องมีอะไรมารองรับก่อน นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลอยากส่งสารไปถึงประชาชนว่ามันยังไม่เกิดขึ้น

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าเราก็พยายามที่จะผลัดดันในเรื่องนี้ ตนมองในมุมที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เราจะเห็นว่าประเทศไทย สูญเสียโอกาสไปมาก ๆ กับที่ไม่มีสถานที่การจัดงาน ไม่มีหน่วยงานที่มารับผิดชอบการจัดงานระดับโลก ที่ประเทศเพื่อนบ้านแย่งเราไปหมด เพราะเราไม่มีสถานที่จัดงาน ซึ่งใหญ่ที่สุดก็คือราชมังคลาฯ ซึ่งเป็น Out Door และสภาพอากาศประเทศไทยที่มีทั้งร้อนและฝนตก จึงไม่มีอะไรที่มาการันตีในการจัดงานแบบนี้ให้สำเร็จได้