อนุทิน ขออย่ามองเป็น ‘ลูกเนวิน’ ไม่เอากาสิโน จากนี้ห้ามสวนมติพรรค

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

อนุทิน แจงส่งไลน์ขออภัย นายกฯ แล้วหลัง ไชยชนก ประกาศไม่เอากาสิโน! รับเมื่อวานรู้สึกอึดอัด แต่วันนี้สบายใจแล้ว ขออย่ามองเป็นลูกเนวิน แต่เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว ย้ำจากนี้สวนมติพรรคไม่ได้ ส่วนจะกระทบตำแหน่งเลขาฯหรือไม่นั้นต้องคุยกันเพื่อรักษาเอกภาพพรรค เชื่อไม่กระทบสถานะพรรคร่วมฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภา ไม่รับร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันกับนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ว่า ตนไลน์ไปแจ้งท่านแล้ว ว่าสิ่งที่นายไชยชนก ได้อภิปราย เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคก็มีแนวทางในเรื่องนี้แล้ว

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีโอเคและไม่ได้ติดใจอะไรใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันก็ไม่ดีหรอก เพราะก่อนที่สมาชิกพรรคจะขึ้นอภิปราย พรรคต้องอนุมัติก่อน ซึ่งกรณีเมื่อวานพรรคไม่ได้มีการอนุมัติ

เมื่อถามว่า วานนี้ได้มีการเคลียร์กับนายไชยชนก แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ต้องเคลียร์ รู้สึกว่าเขามีความเครียดเยอะ ซึ่งนายไชยชนก ก็ไม่ได้แจ้งตนว่าจะขึ้นอภิปราย นี่คือเหตุผลที่พรรคจะมีการประชุมทุกครั้งก่อนที่จะประชุมสภา เพื่อที่จะรู้ได้ว่าสมาชิกคนไหนจะพูดเรื่องอะไรบ้าง เราไม่ได้มีมติว่าวันพรุ่งนี้จะให้มีใครขึ้นมาพูด ฉะนั้นตนก็ไม่รู้ เพราะถ้าพรรคมีมติให้นายไชยชนกขึ้นมาพูดเรื่องอย่างนี้ ตนก็ต้องอยู่ในที่ประชุมสภา แต่นี่ตนไปทำงานอยู่ข้างนอก

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะบิดาของนายไชยชนก แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็คุย แต่อย่างที่ตนบอกว่านายไชยชนก เขาพูดในนามของเขาเอง อย่าไปมองว่าเขาเป็นลูกชายของใคร ทุกคนสามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้ ถ้าเขาพูดในนามพรรคเมื่อไหร่ค่อยเป็นประเด็น แต่นี่เขาพูดในนามส่วนตัวของเขา ก็เหมือนกับพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาล ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะแยะ บางพรรคก็มี 3-4 คนที่ไม่เห็นด้วย บางพรรคก็มีสมาชิกอีกหลายคนถึงขั้นออกแถลงการณ์มา

ส่วนพรรคภูมิใจไทยตอนแรกคิดว่า จะไม่มี แต่ก็ดันมีแล้วคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าตนต้องไปแก้ไข แต่ยืนยันว่าไม่ใช่มติของพรรค ย้ำว่าแนวทางพรรคภูมิใจไทยยังเหมือนเดิม คือสนับสนุนรัฐบาล

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า รู้สึกอึดอัดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อึดอัดเมื่อวาน แต่วันนี้ไม่อึดอัดแล้ว ตอนที่นายไชยชนก ขึ้นพูดตนรู้สึกอึดอัดเพราะเป็นห่วงลุ้น แต่ตอนนี้ไม่อึดอัดแล้วเพราะมีความชัดเจนแล้วว่า พรรคภูมิใจไทยมีหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วย กับเรื่องนี้นโยบายนี้ ซึ่งตนก็ต้องไปแก้ไข ต้องให้ไม่มีคนที่สอง คนที่สาม ส่วนกรณีความเห็นของนายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นั้นเป็นเรื่องของศาสนา

ส่วนที่มีคนมองว่านายไชยชนก อภิปรายนั้น เป็นเลขาธิการพรรค ไม่ใช่สมาชิกธรรมดา นายอนุทินทย้ำว่า นายไชยชนก ไม่ได้พูดในนามพรรค ถ้าเป็นเลขาธิการพรรคนั้นพูดแบบนี้ เพราะพรรคไม่ได้มีมติ ย้ำว่าพรรคมีแนวทางที่ชัดเจนจะสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล กรณีนี้ก็เช่นกัน ร่าง พ.ร.บ.ทุกอย่าง ที่เข้าสู่สภาได้ ก็ต้องผ่านคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยมีตั้ง 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อร่างนี้ผ่าน ครม. เข้าสู่สภาก็เท่ากับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เห็นชอบแล้ว ซึ่งแบบนี้ถือเป็นมติพรรค แต่การที่อยู่มี สส. คนหนึ่ง ที่พอดีท่านเป็นเลขาธิการพรรค แล้วลุกขึ้นอภิปรายในสิ่งที่ไม่ได้หารือกับพรรค อันนี้ต้องถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ เขามีสิทธิ ตนห้ามเขาไม่ได้

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนต้องพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งตนได้เขียนข้อความผ่านไลน์ไปขออภัยท่านนายกฯแล้ว ตนคิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่างที่ตนบอกถ้าเรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าตนทราบว่าจะมีการอภิปรายแบบนี้ ถ้าเขาบอกตนก่อน ตนก็ต้องอยู่ในสภาด้วย แต่เมื่อวานตนมีภารกิจสำคัญมาก และไม่คิดว่าจะมีคิวที่นายไชยชนกพูด

เมื่อถามว่า ที่เกิดความสบายใจเพราะได้ชี้แจงกับนายกฯ ให้เกิดความเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า สบายใจขึ้น แต่ถ้าถามในฐานะเลขาธิการพรรคและลูกหลานก็ไม่สบายใจเต็มที่ ซึ่งตอนนายไชยชนกพูดตนนั่งอยู่ในรถ ไม่ได้เห็นภาพก็นั่งเกร็งอยู่หลายระลอกเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เร่งไปที่สภา ดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าจำเป็น อาจจะต้องลุกขึ้นแถลงว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีแนวคิดแบบนั้น แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล และเมื่อเข้าสภาเจอผู้สื่อข่าวก่อน ก็มีโอกาสได้พูดให้ผู้สื่อข่าวฟัง

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ากระแสที่จะนำออกจากพรรคร่วมกลับมาอีกครั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ตรงนั้นตนไม่ห่วง อย่างที่บอก แนวทางของพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว และเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่นายกฯเรียกพรรคร่วมรัฐบาลคุยก็มีการแจ้งกันหมดแล้ว มีบางพรรคที่ 4-5 คนไม่เห็นด้วยก็แจ้งไว้ ซึ่งหัวหน้าพรรคบางพรรคบอกไม่มีปัญหา แต่ก็มีแถลงการณ์ออกมาไม่สามารถรับได้

ส่วนตนก็บอกว่า ไม่ได้มีปัญหาพรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่ตอนนี้มีปัญหา 1 คนก็ต้องแจ้งท่านนายกฯ และเป็นหน้าที่ของตนที่จะไปบอกสส.ทุกคนของพรรค อย่าไปมองว่า นายไชยชนก เป็นลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีย์รัมย์ยูไนเต็ดและเลขาธิการพรรค เพราะนายไชยชนก พูดในสภาว่าเป็นราษฎรคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งตรงนี้เราห้ามเขาไม่ได้ หน้าที่ตนตอนนี้ก็ต้องไปคุยกับเขา คุณได้แสดงท่าทีออกไปแล้ว แต่ถ้าพรรคมีมติคุณต้องโหวต จะสวนมติพรรคไม่ได้ ถ้าสวนกับพรรคพรรคก็มีกฎระเบียบที่จะดำเนินการเหมือนสมาชิกพรรคทุกคน

เมื่อถามว่า เป็นคนกลางลำบากใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนลำบากใจซิ เวลาต้องมาเป็นกันชนลำบากใจแน่นอน เพราะตนเป็นกันชนถูกชนก่อน เราจะให้คู่กรณีไปชนกันไม่ได้ ลำบากใจ แต่ตนก็เป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องทำตามตน

เมื่อถามว่า ปัญหานี้ถึงขั้นต้องปรับเปลี่ยนอะไรในพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวเราไปพูดคุยกัน เพราะเอกลักษณ์ของพรรคที่ทุกคนมีความภาคภูมิใจ เวลาไปพูดหรือเจรจากับใคร ตนให้ความมั่นใจกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็บอกว่า ไม่ต้องกังวล อย่างเช่น ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนที่จะรู้ว่านายกฯโดนอยู่คนเดียว ตนก็ได้แสดงความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนทุกคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และเอกภาพ

“ผมเป็นหัวหน้าพรรค จะให้ใครมาทำลาย และแตะไม่ได้ ถ้าใครมาแตะตรงนี้แล้วมีตำแหน่งก็ต้องดำเนินการ”