บทเรียนการเมือง ลูกไม้ “ไชยชนก” ใต้ต้น “ชิดชอบ” แทงทะลุพรรคร่วม

กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโน 10% ของสัดส่วนพื้นที่ทั้งหมด ที่รัฐบาลหวังเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวเปลี่ยนเกม ต้องเผชิญหน้ามรสุมการเมืองทั้งในรัฐบาลและนอกรั้วทำเนียบรัฐบาล

กระแสร่างกฎหมายการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เชี่ยวกรากดุเดือด ดูผ่อนกำลังลงชั่วขณะ พลิกกลับมาร้อนแรงดันอุณหภูมิการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลแทบปริแตก

ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผ่อนคันเร่ง ไม่ดึงดันให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณากฎหมายดังกล่าวเป็น “วาระด่วน”

แต่มีวาระที่ด่วนกว่า-เดือดกว่าเข้ามาแทรก โดยมีหัวขบวนพรรคภูมิใจไทย นำทีมช่วงบ่าย ๆ 9 เมษายน 2568 ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภา “ผมนายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ ผมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน และไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุก ๆ พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาแล้วนำเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา สำหรับผมและทุกอย่างที่ผมได้ศึกษามา มันมีเรื่องเร่งด่วนที่ด่วนกว่ามหาศาล”

ไชยชนก ชิดชอบ ประกาศกลางสภา ไม่เห็นด้วยกับกาสิโน (9 เม.ย. 2568)

กลายเป็นการเติมเชื้อไฟในรัฐบาล ทำให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องรีบบึ่งเข้ารัฐสภา ชี้แจงว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะ สส. ไม่ใช่มติพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุน

ก่อนทิ้งท้าย “ผิดคิวนิดหน่อย แต่เขา (ไชยชนก) มีสิทธิในฐานะที่เป็น สส. ซึ่งความเป็น สส.มีเอกสิทธิ์ไม่สามารถห้ามได้ แต่ความเป็นพรรคการเมืองต้องแจ้งให้พรรคทราบก่อน”

ADVERTISMENT

จากนั้นมีความเห็นจากคนภายในพรรคเพื่อไทย ทั้งเข้าใจและไม่เห็นด้วย พร้อมตำหนิ จนช่วงเช้า 10 เมษายน ที่ทำเนียบ ก่อนทำบุญช่วงวันสงกรานต์ นายกฯแพทองธารบอกว่า รองนายกฯอนุทินไลน์และ โทร.มาเคลียร์แล้ว ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น ตนไม่ติดใจอะไร เพราะไชยชนกก็เคยคุยกันนอกรอบเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ จึงอาจเกิดความสับสน แต่พร้อมพูดคุยหากมีโอกาส

หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่าสถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ เมื่อโดนสาดน้ำ เปิดงานมาจะมอดหรือมีเชื้อไฟ

ADVERTISMENT
นายกฯพร้อมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แถลงเลื่อนร่าง กม.คอมเพล็กซ์ หลังประชุม ครม. (8 เม.ย. 2568)

แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนการเมืองที่ 1 ของลูกชายคนโตครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ให้จดจำและนำไปขัดเกลา เพื่อรับมือเกมและอารมณ์ทางการเมือง ตามที่รุ่นเก๋า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย สอนมวย “การเป็นเลขาธิการพรรค ควรมีความเข้าใจ ไม่อยากจะบอกว่าวุฒิภาวะนะ ควรจะมีความเข้าใจมากกว่านี้ ทำอะไรควรสุขุมรอบคอบกว่านี้”

กฎหมายคอมเพล็กซ์-กาสิโน วาระตบ ๆ จูบ ๆ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”

ย้อนอดีตหลังเลือกตั้งปี 2566 โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นโยบายเรือธงพรรคเพื่อไทย ก็ตบจูบกับพรรคภูมิใจไทยมาตลอด ช่วงแรกถ้าจำได้ แม้อนุทินสงวนท่าทีเพราะต้องเป็นแกนนำพรรคที่ต้องนั่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.)

แต่เมื่อ 13 สิงหาคม 2567 หลังขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค (ป้ายแดง) นก นำทีมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แถลงคัดค้านร่างกฎหมายกาสิโน ให้เหตุผล 4 ข้อ ไม่แก้ปัญหาพนันผิดกฎหมาย ผลประโยชน์ต่อรัฐและประชาชนยังไม่ชัดเจน รวมถึงผลกระทบเชิงขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว และไม่มีความชัดเจนเรื่องการจ้างแรงงานคนไทย

หลังจากนั้นเป็นประเด็นถกเถียงทางการเมืองสภา และ ครม.มาตลอด โดยเฉพาะรายละเอียดร่างกฎหมายนี้ และยิ่งโหมโรงหนักขึ้น เมื่อก๊วนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ถูกมองเป็น “สว.สีน้ำเงิน” คอยผสมโรงฮึ่ม ๆ ขวางเป็นระยะ ๆ

สุดท้ายต้องถึงมือคณะกรรมการกฤษฎีกา สวมบทเป็นเชฟในการนำร่างกฎหมายนี้ไปปรุงตามออร์เดอร์ โดยมีหัวหน้าเชฟมือฉมัง มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นผู้เสนอแนะ จนได้ข้อเสนอที่ว่า คนเข้าเล่นกาสิโนต้องมีเงินผ่านในบัญชี 50 ล้านบาทขึ้นไป จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่สุดท้ายร่างกฎหมายก็ผ่าน ครม. ส่งถึงสภา ขณะนี้ต้องรอสภาเปิดสมัยหน้าอีก 3 เดือน ช่วงกรกฎาคมค่อยกลับมาเถียงกันใหม่

บรรยากาศในขั้วการเมืองสีน้ำเงินมีส่วนผสมสำคัญที่เป็นตัวบ่ม ให้ทัศนคติ “ไชยชนก” ผู้นำการเมืองรุ่นลูกเปิดหน้า กล้าประกาศคำสำคัญในการ “ต้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หรือกฎหมายกาสิโน

เพราะวันที่ 9 เมษายน 2568 ไม่ใช่ครั้งแรกที่สัญญาณการต้านกฎหมายกาสิโน ดังขึ้นในห้องประชุมสภาผู้แทนฯ ทว่าก่อนหน้านี้ 5 วัน ฐานที่มั่นค่ายการเมืองสีน้ำเงิน สนามช้าง จ.บุรีรัมย์ ได้ยินเสียงดังก้องจาก “พ่อ” ของไชยชนก ถึงหูชนชั้นระดับไฮคลาสของสังคมไทย ด้วยวรรคทองที่ว่า “การเสนอกฎหมายให้อำนาจท้องถิ่น คงไม่เร่งด่วนเท่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์… เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีคนค้าน เพราะเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนโดยตรง”

“นก-ลูกครูใหญ่” ค่ายการเมืองสีน้ำเงิน

“ประชาชาติธุรกิจ” เคยสนทนากับทายาทการเมืองวัยใกล้ 35 บ้านชิดชอบ เป็นลูกชายคนโตของเนวิน จากทั้งหมด 4 คน เกิดจังหวัดนนทบุรี ก่อนย้ายไปอยู่บุรีรัมย์ และย้ายอีกครั้งไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ เริ่มการศึกษาโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จนอายุ 7-8 ขวบ ถูกส่งไปเรียนที่อังกฤษ จนอายุ 25 กลับมาเมืองไทย

แต่ระหว่างนั้น 17 ปี บินไปกลับอังกฤษ ทุกช่วงวันหยุด ไชยชนกเล่าว่าช่วงหยุดแม้อยากอยู่อังกฤษ แต่ครอบครัวให้เดินทางกลับมาตลอด เพราะคุณพ่อคุณแม่ติดลูก ๆ มาก ๆ

พอกลับมาอยู่ประเทศไทย ไชยชนกช่วยงานครอบครัวทั้งในส่วนทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ และสนามแข่งรถ อาทิ ประสานส่งเยาวชนไปฝึกต่างประเทศ ช่วยเรื่องการตลาด การสื่อสารองค์กร จนบุกเบิกกีฬาอีสปอร์ต ทำให้บ้านเกิดเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในชื่อ “บุรีรัมย์ โมเดล”

ก่อนก้าวสู่สนามการเมืองครั้งแรกด้วยการคว้าชัยเป็น สส.จังหวัดบุรีรัมย์ จากนั้นขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แทนอา ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ถูกอุบัติเหตุการเมือง

ไชยชนกเคยบอก “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เป้าหมายทางการเมืองของเขา “สำคัญที่สุด ทำให้ภูมิใจไทยก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาทำให้มันเปลี่ยนแปลงการเมืองและพัฒนาประเทศได้”