
สรวงศ์เผยคืบหน้าต่อสัญญาโมโตจีพี มั่นใจชัดเจนก่อน F1 ชี้โมโตจีพี ทำเงินเข้าประเทศเหมือนเนวินบอก ยันไม่เกี่ยวการเมือง หลังถูกโยงแลกผ่านร่าง กม.คอมเพล็กซ์
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาการต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพจัดโมโตจีพี ว่าขณะนี้ยังมีเวลาอยู่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังดำเนินการ ซึ่งอยากให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้
โดยการเป็นกีฬาอาชีพ เมื่อรัฐช่วยตั้งไข่ขึ้นมาแล้ว จัดมาแล้ว 7 ปี ตนมองว่าภาคเอกชนต้องเข้ามา เมื่อดูจากตัวเลขยอดผู้ชมและเม็ดเงินที่ทำได้ช่วงแข่งขันโมโตตีพี หากภาคเอกชวนมีส่วนร่วมมากกว่านี้ รัฐไปได้แน่นอน แต่ทั้งหมดอยากให้เกิดขึ้น แต่รัฐต้องจ่ายเงินน้อยลงกว่านี้
ส่วนที่มีการมองเรื่องนี้เชื่อมโยงกับการเมืองนั้น นายสรวงศ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะการเมืองคือการเมือง ขออย่าเอาไปปนกัน กีฬาคือกีฬา เช่นเดียวกับที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด พูดว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศจริง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม และเมื่อเป็นลูกค้าเก่าจะต่อสัญญาก็ต้องคุยกันว่ามีอะไรบ้าง มีอะไรที่จะเอื้อให้กับคนไทยบ้าง ค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นปีละ 5% เราต่อรองได้หรือไม่
ส่วนการต่อสัญญา MotoGP จะถูกนำไปต่อรองกับการผ่านร่างกฎหมาย พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่ นายสรวงศ์ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้สื่อมวลชนเลิกใช้คำว่ากฎหมายกาสิโน เพราะมันคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขอให้ดูที่ 90% อย่าดูที่ 10%
เพราะเป็นแค่กฎหมาย ซึ่งในนามรัฐบาลออกกฎหมายมาเพื่อจะดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่ว่ารัฐจะไปสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นกรอบกฎหมายเพื่อรองรับนักลงทุน ถ้านักลงทุนสนใจก็สนใจ ถ้าไม่สนใจก็ไม่มี
นายสรวงศ์เปิดเผยว่า F1 ขณะนี้ทำ MOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัด ซึ่ง F1 อยู่ระหว่างการมองหา Street Circuit ซึ่งจากประสบการณ์ของ F1 ที่มีการพูดคุยกันที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศ และบริษัท F1 เองมันต้องเป็น Street Circuit เพราะการแข่งในสนามเมื่อแข่งเสร็จก็จบ ไม่ได้มีกิจกรรมต่อ โดยกำลังมองหาสนาม และความเป็นไปได้จะมีการขยับเวลาไปเป็นปี 2028
เมื่อถามว่า F1 กับ MotoGP รายการไหนจะมีความชัดเจนก่อน นายสรวงศ์ยืนยันว่า MotoGP