
ทักษิณ เผยคุยคนรอบตัว ‘ทรัมป์’ ช่วยเจรจาลดกำแพงภาษี เชื่ออยู่ภาวะคุยกันได้ แย้มไทยอาจลดบางกติกาเช่นนำเข้ามอไซค์หรู บอกให้ จนท.คุยก่อนหากมีจังหวะจะบินไป ชี้ ‘นายกฯอิ๊งค์’ อยากเห็นสังคมแข็งแรง
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ช่วงหลังสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทย ว่า วันนี้ลำพังเราประสานสามัคคีกันก็ยากอยู่แล้ว เพราะปัจจัยภายนอกเยอะขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องสงครามการค้า ซึ่งมีความเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัวพอสมควร และเราต้องเข้มแข็งด้วยตัวเราเอง ซึ่งการจะเข้มแข็งด้วยตัว เราก็ต้องการความสามัคคีของคนในชาติที่มองไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ด้วยกัน อย่ามองอะไรที่เป็นข้อระแวงหรือข้อสงสัย
รับรองว่า เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประเทศแข็งแรงขึ้นมาได้ เพราะ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจมากที่จะทำ และเป็นคนรุ่นใหม่จึงอยากเห็นสังคมแข็งแรง เพราะเขาต้องมีอายุอยู่อีกนาน ฉะนั้นอยากให้เราช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยเรารับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย แต่ว่าความเห็นของทุกฝ่ายก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องได้รับการยอมรับแต่จะได้รับการพิจารณาทุกคน
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษี จะมีโอกาสต่อสายพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยตรงหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้มีการพูดคุยกับคนรอบๆนายโดนัลด์ หลายคน ก็คิดว่าอยู่ในภาวะที่พูดคุยกันได้ และเราก็ลดลาในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง เช่น การกีดกันการค้าที่ไม่จำเป็น
เมื่อก่อนเรามีระบบที่เรียกว่าองค์การการค้าโลก หรือ WTO หากออกกฎอะไร ต้องใช้เหมือนกันทุกประเทศ แต่วันนี้เมื่อสหรัฐฯ เป็นตัวเริ่ม ว่าใช้กับประเทศนั้นได้และไม่ใช้กับประเทศนี้ได้ มันก็คงจะทำให้เราสามารถปรับตัวตามนี้ได้
ก็คือกติกาบางอย่างเช่นเราไปกีดกันรถมอเตอร์ไซต์ ซึ่งสหรัฐเค้าเป็นรถลักซูรี่ ซึ่งคนที่มีความสามารถซื้อได้ไม่กี่คน และไม่ได้แข่งขันกับอุตสาหกรรมในประเทศเลย แต่เราตั้งกำแพงภาษีไว้ ซึ่งมันไม่จำเป็น
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะใช้พลังตรงนี้รวมกลุ่มประเทศในอาเซียน เพื่อต่อรองอย่างไรเพื่อให้มีพลังมากขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้กลุ่มสหภาพยุโรป กับกลุ่มอาเซียน พยามพูดคุยกันเพื่อให้เกิดการค้าเสรีระหว่างกัน เพราะวันนี้หากมีการกีดกันการค้ามากเท่าไหร่ก็จะทำให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเดือดร้อนมากขึ้นเท่านั้น เพราะประเทศที่กำลังพัฒนาต้องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ต้องการการจ้างงาน
ฉะนั้นเราในฐานะกลุ่มประเทศอาเซียน ก็ต้องพูดคุยกันว่าเราเป็นประเทศที่ต้องการการเติบโตทางเศรษฐกิจ ฉะนั้นต้องรวมกันให้เป็นหนึ่งในการพูดคุยกับประเทศที่เจริญแล้วว่า เราจะจำเป็นที่ต้องเติบโต ฉะนั้นอย่ากีดกันการค้าการลงทุน
ส่วนทีมไทยแลนด์ที่จะไปเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ควรมีภาคเอกชนร่วมด้วยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราเตรียมการภายในประเทศ เวลาไปคุยไม่ต้องไปเยอะ ฉะนั้นเวลาเตรียมการภายในประเทศก็ต้องคุยให้ตกผลึกและไปเจรจา
เมื่อถามย้ำว่า ตนจะมีโอกาสคุยเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่คุยกันก่อนซึ่งหากตนมีเวลาหรือจังหวะก็จะเดินทางไป