“อภิสิทธิ์” ยันเห็นด้วยแก้รธน. แต่ต้องทำให้ปชช.มั่นใจ นักการเมืองไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่สถานีโทรทัศน์ว๊อยซ์ ทีวี จัดงาน “86 ปี ประชาธิปไตยไทยก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืน” โดยมีตัวแทน 10 พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ ร่วมล้อมวงคุยกันถึงอนาคตประชาธิปไตยไทย นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง พรรคเพื่อไทย (พท.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา (ชนพ.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน พรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จากพรรคเกียน นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ จากพรรคพลังพลเมือง (พพพ.) และ นายชวน ชูจันทร์ พรรคพลังประชารัฐ โดยในวงเสวนาได้ตั้งคำถามกับตัวแทนพรรคการเมืองถึงความสำคัญของการแก้รัฐธรรมนูญ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ตนไม่ต้องการให้ปมเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความสะดุด หรือทำสังคมไทยเดินต่อไม่ได้ ดังนั้น ต้องมาตกลงกันว่า การรื้อรัฐธรรมนูญจะรื้อถึงตรงไหน ถ้ารื้อแล้วไม่มีการตรวจสอบแบบนั้นคงไม่ใช่ ดังนั้นต้องให้สังคมมีฉันทามติ แล้วกดดัน ส.ว.เพื่อให้มีการแก้ไข แต่จะไปถึงจุดนั้น ประชาชนต้องมั่นใจว่านักการเมืองไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง แต่จะแก้เพื่อประชาชน

นายไพบูลย์กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าจะแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นอะไร ตนเห็นว่าเรื่องการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากไม่ดี พรรคการเมืองที่ตั้งใหม่คงไม่ตั้งพรรคขึ้นมาในครั้งนี้ ส่วนที่เสียตนมองว่าไม่ได้ทำให้ประชาชนเสีย แต่ทำให้พรรคการเมืองเสีย เช่น รัฐธรรมนูญไปสร้างการตรวจสอบที่เข้มข้น แต่ถ้าท่านเสนอว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ ตนก็ต้องยืนยันว่าต้องดูก่อนว่าต้องแก้ตรงไหน

ด้านนายธนาธรกล่าวว่า อำนาจเป็นของประชาชน ดังนั้นต้องกลับไปดูว่ารัฐธรรมนูญนี้มีที่มาจากไหน เราต้องการเสียงจากประชาชนเพื่อส่งสัญญาณไปถึ งส.ว. อำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชน ไม่ต้องตอบเลยว่ารูปแบบของรัฐธรรมนูญจะเป็นแบบไหน

นายวราวุธกล่าวว่า รัฐธรรมนูญทุกฉบับมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากจะแก้โครงสร้าง ส.ส.ร.ต้องมาจากประชาชนทุกส่วน

นายอนุทินกล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ของประชาชนไม่ต้องไปเตะ ดังนั้น หากเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐบาลนี้ยังอยู่แล้วมีการกำหนดคำสั่งต่างๆอะไรเพื่อเขา แบบนี้ต้องแก้

นายชวนกล่าวว่า อะไรที่จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศต้องแก้ไข แต่การจะแก้ประชาชนส่วนรวมจะต้องเข้าใจ และเห็นด้วย

นายสมบัติกล่าวว่า ไวรัสขณะนี้มี 250 ตัว ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ก็ต้องลงแอนตี้ไวรัสกำจัดไวรัสเหล่านี้ก่อน แล้วประชาชนต้องร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการของรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ละเมิดสิทธิของประชาชน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์