
คอลัมน์ : Politics policy people forum
รอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นับวันยิ่งเห็นรอยปริแยก เสถียรภาพที่เคยมั่นคงอาจไม่มั่นคง
ไทม์ไลน์รัฐบาลที่อยู่ครบ 4 ปี อาจจบเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ที่ “ไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศ ค้านกฎหมายกาสิโน หักเพื่อไทย กลางสภา
การเมืองหลังสงกรานต์ เดินเข้าสู่เกมกดดันการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางลูกยุของคนในพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจ “ยึด” กระทรวงมหาดไทย คืนจากพรรคภูมิใจไทย
ทว่า พรรคภูมิใจไทย ยังอยู่ในสภาพถือดุลอำนาจการเมืองมากกว่า เนื่องจากพรรคสีน้ำเงิน เชื่อมกับ สว.สีน้ำเงิน แผ่อำนาจไปถึงการเฟ้นองค์กรอิสระ ในจังหวะที่หลาย ๆ ปมการเมืองของรัฐบาล เริ่มทยอยเป็น “คดี” ในชั้น ป.ป.ช.-ศาลฎีกา-ศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะปมมาตรฐานจริยธรรม
ที่มีสิทธิสอยบุคคลในรัฐบาล ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนถึงนายกรัฐมนตรี
“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาโต้ข่าวการยึดเก้าอี้ มท.1 ว่า
“ต้องใช้แรงเยอะนะ ไม่น่าจะมีเรื่องพวกนี้ จะเขย่าทำไม ต่างคนต่างทำงาน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในการทำงาน ทำงานร่วมกันมาจะ 2 ปีอยู่แล้ว ทุกคนก็ทำงานก็ได้รับเกียรติ และนายกฯก็สั่งงานตลอดเวลา”
รัฐบาลมาด้วยกันอย่างดี 71 เสียงพรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และเป็นพรรคที่ประกาศชัดเจนว่า ในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน
ถ้านายกฯไม่ทำผิดกฎหมายใด ไม่ทำผิดจริยธรรมหรือศีลธรรมใด ถ้าถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสภา พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่ออกมาบอกว่าจะปกป้อง และให้ความไว้วางใจ สนับสนุนการทำงานของนายกฯ โดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ
ภท.ไม่ออกจากรัฐบาลง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง ผู้ซึ่งผ่านการเมืองเข้ม ๆ มาทุกยุค พยากรณ์สถานการณ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยว่า แตกกันแน่ ๆ อยู่แล้ว เพียงแต่พรรคเพื่อไทย อยากจะให้พรรคภูมิใจไทยแสดงก่อน แต่พรรคภูมิใจไทยชัดเจนว่าเขาอยากให้ถูกขับออกมากกว่า เขาจะได้คะแนนทางการเมืองมากกว่า เพียงแต่เวลานี้รอจังหวะเท่านั้น
รศ.สุขุม ยกตัวอย่างยุครัฐบาลนายหัวชวน การถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาล ครั้งนั้น ทำให้รัฐบาลล้มลงทันที
“เคยมีขับออก แต่รัฐบาลไปไม่รอดต้องยุบสภา เหมือนคราวที่พรรคพลังธรรมถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลชวน หลีกภัย หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนแรกคุณชวน ในฐานะนายกฯ อยากให้ขับออก แต่พรรคพลังธรรมถอนตัว คุณชวนจึงยุบสภา”
ถามว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะถึงขั้นนั้นไหม รศ.สุขุมตอบทันทีว่า ถึง…การเมืองขึ้นอยู่กับการคาดคะเนด้วย แต่กระแสของคนคิดว่ารัฐบาลจะต้องปรับ ครม.แน่ ตอนนี้รัฐบาลเหมือนเป็ดง่อย ทำอะไรคนก็ไม่เชื่อ รอให้ปรับ ครม.ก่อน เพราะคนลงความเห็นแล้วว่าจะต้องถึงขั้นปรับ ครม. หรือยุบสภา ไม่ปรับไม่ได้ ถ้าไม่ปรับก็ยังเป็นรัฐบาลที่ไม่น่าเชื่อถือ
“ปรับ ครม.เพื่อให้พรรคภูมิใจไทยลาออกเอง ด้วยการดึงกระทรวงมหาดไทยกลับมา แต่ดูแล้วพรรคภูมิใจไทยคงไม่ลาออกเอง เขาคงอยากให้ไล่เขาออก”
แต่ปัญหาของรัฐบาลตอนนี้คือ รัฐบาลยังมีภาระเต็มมือ ยังทำได้ไม่เต็มศรัทธาของผู้คน เช่นเรื่องภาษีทรัมป์ยังค้างอยู่ แต่ถ้ามีข่าวดีทางนี้บ้าง (เจรจาภาษีทรัมป์) รัฐบาลคงเดินหน้าปรับ ครม.
“ตอนนี้มีคนเขาพูดกัน ลองดูให้ดี เอาภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล หากเกิดเรื่อง 25 สส.พรรคประชาชน ที่กำลังสู้คดี 112 หากถูกตัดสิทธิ เสียงกึ่งหนึ่งในสภาก็จะลดลง รัฐบาลก็มีความเชื่อว่ามีเสียงของพรรคพลังประชารัฐสำรองไว้”
“ส่วนพรรคภูมิใจไทย เขาคิดว่าเขาถึงเวลาที่จะเป็นของอนุรักษนิยมมากขึ้น เพราะฝ่ายอนุรักษนิยมหาตัวนำไม่ได้ ที่แน่ ๆ ฝ่ายอนุรักษ์ไม่เอาการพนัน ตรงนี้เป็นโอกาส-จังหวะดี หมายความว่าเขาเชื่อว่าถ้าทำอย่างนี้ ฝ่ายอนุรักษนิยมจะต้องหันมาพึ่งพรรคภูมิใจไทย”
พรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทย จะกอดคอจนครบเทอมหรือไม่ “ดร.สุขุม” อ่านเกมนี้ว่า “ไม่อยู่ครบเทอม เพราะสองพรรคนี้ต้องแข่งกันอยู่แล้ว ต้องยุบสภาก่อนปี 2570”
แพทองธารในพายุ 5 ลูก
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยก 5 พายุกำลังถล่มใส่รัฐบาลเวลานี้ว่า ลูกที่หนึ่ง พายุเศรษฐกิจที่เกิดจากกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ลูกที่สอง ปัญหาเศรษฐกิจภายในที่เป็นผลจากกำแพงภาษีอเมริกัน ซึ่งพายุทั้ง 2 ลูก รอการพิสูจน์ฝีมือรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อาจกลายเป็นวิกฤตภายในประเทศได้ แต่ถ้าทีมรัฐบาลสามารถจัดการ จนทำให้พายุของทรัมป์ผ่านพ้นประเทศไทยไปได้ สถานะของรัฐบาลน่าจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น
แต่การดีลกับทรัมป์ในภาวะปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย แม้เป้าหมายหลักของพายุทรัมป์ คือ การจัดการกับจีน แต่ก็จะมีผลกับเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง และกระทบกับการส่งออกของไทยไปตลาดสหรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลูกที่สาม พายุที่ส่อเค้าว่าอาจจะมีลมแรงจากปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลในกรณีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ลูกที่สี่ พายุคอร์รัปชั่นในกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม รอการจัดการของรัฐบาล และต้องรอความกล้าหาญทางจริยธรรมของผู้นำรัฐบาลจัดการกับปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับการหากินของทุนจีนที่อาศัยความอ่อนแอของรัฐไทย
ลูกที่ห้า พายุที่เกิดต่อเนื่องมาโดยตลอด คือ พายุภาคใต้ ซึ่งเป็นพายุที่มีสัญญาณเตือนภัยถึงความแรงของลมที่พัดไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้ายด้วยปฏิบัติการต่าง ๆ ของกลุ่มบีอาร์เอ็น (BRN) ที่เพิ่มมากขึ้น มีคำถามอย่างมากถึงการดำเนินงานในภาคใต้ เนื่องจากจนถึงบัดนี้ก็ไม่ปรากฏความชัดเจนในทิศทางเชิงนโยบายของรัฐบาล
นับถอยหลังสัมพันธ์ พท.-ภท.
ส่วนมีสิทธิที่พรรคเพื่อไทย-พรรคภูมิใจไทยจะแยกทางหรือไม่นั้น ศ.ดร.สุรชาติกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการดีลที่เราไม่อาจเห็นได้เลยระหว่างบ้านจันทร์ส่องหล้า กับบ้านบุรีรัมย์ แต่ถึงจะดีลได้ ลมพายุที่เกิดก็ทำความเสียหายไปแล้ว จะซ่อมกันอย่างไรไม่ให้มีรอยแตกมากขึ้นไป
แต่รอยร้าวจาก “พายุบุรีรัมย์” ไม่หายไปไหนแน่นอน ถึงจะซ่อมได้ แต่พายุจะมาอีกไหม หรือพายุลูกนี้อาจไปก่อตัวในวุฒิสภาในวันหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทยกับวุฒิสภา ยังต้องติดตามในอนาคต
และถ้าผลประโยชน์ที่จะอยู่ร่วมกันของ 2 พรรคเริ่มหมดลง เพราะปัญหาแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็คงเป็นการนับถอยหลัง ที่อาจจะไปสอดรับกับความเชื่อทางโหราศาสตร์ของการเปลี่ยนราศีของ 3 ดาวใหญ่
พายุทั้ง 5 อาจกลายเป็นวาตภัยที่ก่อให้เกิดผลกับความเปลี่ยนแปลงที่เป็นความเสียหายในทางการเมืองได้ไม่ยาก เพราะความไม่พร้อมในการรับมือของรัฐบาล โดยไม่จำเป็นต้องไปโทษว่า ดาวใหญ่เปลี่ยนที่ในทางโหราศาสตร์
ฉากหลังการเมืองนาทีนี้ ความสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ร้าวในร้าว กำลังนับถอยหลัง