นครพนมนำทีมขอ 1.4 หมื่นล้าน รับ ครม.สัญจร 3 จังหวัดอีสานเหนือ

“นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร” จับมือชง 30 โครงการงบประมาณ 14,000 กว่าล้านบาท รับ ครม.สัญจร ปลาย เม.ย.นี้ ชู “อีสานมหานครแห่งพฤกษเวช” พร้อมผลักดัน “เทศกาลไหลเรือไฟ” สู่ระดับโลก จ.นครพนม เสนอมากสุดกว่า 1 หมื่นล้าน จัดเต็ม 17 โครงการ โดยเฉพาะขอตั้งคณะแพทย์ ม.นครพนม ส่วนสกลนครชง “มหานครแห่งการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” ขณะที่มุกดาหารสร้างสกายวอล์กริมแม่น้ำโขง “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม หนุนสุดตัวดันคณะแพทย์ เพิ่มการเดินทางง่ายขึ้นทั้งทางบก-ราง และอากาศ

เสนอ 1.4 หมื่นล้าน ครม.สัญจร

นายธนพัต ฑีฆธนานนท์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดนครพนม วันที่ 28-29 เม.ย.นี้ ภาครัฐ และภาคเอกชน 3 จังหวัดเตรียมนำเสนอโครงการต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาให้ รวมถึงโครงการเชิงนโยบายที่ยังไม่ได้รับงบประมาณ แต่จะมีการบรรจุในงบประมาณในอนาคตต่อไปทั้งหมดรวม 30 โครงการ มูลค่ารวมประมาณกว่า 14,000 ล้านบาท

รัฐบาลกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.กรอ.กลุ่มจังหวัด วงเงิน 100 ล้านบาท 2.แต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรร วงเงินจังหวัดละ 50 ล้านบาท รวม 3 จังหวัด 150 ล้านบาท 3.กรอ.จังหวัด จังหวัดละ 50 ล้านบาท โดย กรอ.จังหวัดเอกชนจะมีบทบาทในการนำเสนอตั้งแต่ระดับจังหวัดผ่านขึ้นไป

สร้างอาชีวะนานาชาติ

ข้อเสนอโครงการของกลุ่มจังหวัด 1 โครงการ วงเงิน 50 ล้าน คือ โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนม และพื้นที่ต่อเนื่อง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ระยะที่ 1 (ลานตะวันเบิกฟ้า) งบประมาณ 50 ล้านบาท ประกอบด้วย การก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนม

ส่วนโครงการของ กรอ.กลุ่มจังหวัด 1 โครงการ วงเงิน 50 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาและยกระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 สู่การเป็นเมืองมหานครแห่งพฤกษเวช รองรับการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขงเชิงสุขภาพ งบประมาณ 50 ล้านบาท

ข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบาย 1 โครงการ คือ โครงการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษานานาชาติ ผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา งบประมาณ 2,285 ล้านบาท โดยการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษานานาชาติ และศูนย์วิจัยเทคโนโลยีนวัตกรรม

ชู “ไหลเรือไฟ” สู่ระดับโลก

นครพนมเสนอมากสุด 17 โครงการ แบ่งเป็น โครงการของ กรอ.จังหวัดนครพนม มี 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการสร้างอัตลักษณ์เมือง (DNA) และ Marketing ภายใต้ 5 Must (Visit, Eat, Shop, Mu, Rest) งบประมาณ 20 ล้านบาท 2.โครงการยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก งบประมาณ 30 ล้านบาท โดยโครงการนี้ทางหอการค้าจังหวัดนครพนมได้ทำการผลักดันตั้งแต่ตนรับตำแหน่ง เพื่อเป็นหนึ่งในเทศกาลที่จะช่วยยกระดับเมือง

รายงานข่าวจากจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่า สำหรับโครงการของจังหวัด 1 โครงการ งบประมาณ 50 ล้าน คือ โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาและไดโนเสาร์ “Geo Park at Thauthen” งบประมาณ 50 ล้านบาท ประกอบด้วย การซ่อมแซมปรับปรุงแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียน “แหล่งรอยตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทน”

ตั้งคณะแพทย์ ม.นครพนม

นอกจากนี้ จังหวัดนครพนมได้เสนอขอรับการสนับสนุนโครงการเชิงนโยบาย 14 โครงการ งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท ที่เด่น ๆ อาทิ โครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม งบประมาณ 2,398,484,400 บาท โดยตั้งเป้าเปิดรับนักศึกษารุ่นแรก ปีการศึกษา 2570 โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบนถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม, โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนมและพื้นที่ต่อเนื่อง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ระยะที่ 2

โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขง สายนาคาวิถี 2 ตอน จากธาตุพนม ถึงถนนสวรรค์ชายโขง ระยะทางรวม 51.10 กม. งบประมาณ 766,500,000 บาท โครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2033 สายนาแก-หนองญาติ ระยะทาง 50.994 กิโลเมตร งบประมาณ 1,930,000,000 บาท เป็นต้น

สกลนครเมืองเที่ยวสร้างสรรค์

ดร.กัลยารัตน์ จารุกรจินดารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า สกลนครเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา 5 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 899 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการของจังหวัด 1 โครงการ คือ โครงการปรับปรุงผิวแอสฟัลต์ ติดตั้งและปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2339 ตอน ศรีวิชา-กวนบุ่น ระหว่าง กม.8+000-กม.35+500 เป็นช่วง ๆ

โครงการของ กรอ.จังหวัด 1 โครงการ คือ โครงการยกระดับโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยสกลนคร หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท และเครือข่ายสู่ความเป็นเลิศในการดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วย NCDs ด้วยการแพทย์แผนไทย และสมุนไพร งบประมาณ 50,000,000 บาท

ข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบาย 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 2.โครงการสกลจังซั่นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ งบประมาณ 50 ล้านบาท เช่น การส่งเสริมสกลนครเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ผ่านวัฒนธรรมอาหารสกลนคร กระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร, มหกรรมก้าวสู่มหานครแห่งการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (สกลนคร Festival) ฯลฯ

3.โครงการศูนย์การเรียนรู้การผลิตโคขุนโพนยางคำ แบบครบวงจร งบประมาณ 420,000,000 บาท ประกอบด้วย ศูนย์การเรียนรู้การผลิตโคขุนโพนยางคำ แบบครบวงจร และการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอาหาร

มุกดาหารสกายวอล์กริมโขง

นายคณิต ปัญติโย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า นำเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รวม 5 โครงการ วงเงิน 383,433,500 บาท แบ่งเป็น โครงการของจังหวัด 1 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงหอประชุมนานาชาติจังหวัดมุกดาหาร

โครงการของ กรอ.จังหวัด 1 โครงการ คือ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดและประชาสัมพันธ์ กลุ่มจังหวัดสนุก (เที่ยวสนุกสุขสบาย) ก่อสร้างสะพานชมภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขง (สกายวอล์ก) และพื้นที่ต่อเนื่อง ระยะทาง 60 เมตร ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณปากห้วยมุก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร งบประมาณ 50 ล้านบาท

ส่วนข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบาย มี 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดและประชาสัมพันธ์ กลุ่มจังหวัดสนุก (เที่ยวสนุก สุขสบาย) 2.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดและประชาสัมพันธ์กลุ่มจังหวัดสนุก (เที่ยวสนุก สุขสบาย) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะบริเวณแก่งกะเบาและพื้นที่ต่อเนื่อง และ 3.โครงการยกระดับศูนย์การแพทย์เฉพาะทางและโรงพยาบาลอัจฉริยะ งบประมาณ 113,433,500 บาท

อัพเกรดเมืองรองสู่เมืองหลัก

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ สส.นครพนม กล่าวว่า การประชุม ครม.สัญจร พื้นที่ จ.นครพนม ไฮไลต์สำคัญที่จะเสนอ ครม.อนุมัติงบประมาณ 2 เรื่อง คือ สนับสนุนการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟโลก เพื่อยกระดับจากเมืองรองให้เป็นเมืองหลัก เนื่องจาก จ.นครพนม เป็นการท่องเที่ยวแบบสายมู เป็นเมืองแห่งการพักผ่อน ประเพณีที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และในโลก จากประเพณีไหลเรือไฟ เป็นมหกรรมไหลเรือไฟโลก โดยมี 4 ประเทศเข้าร่วมประกวดเรือไฟ ไทย ลาว เวียดนาม และจีน หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กระทรวงวัฒนธรรม

อย่างไรก็ตาม การจะยกระดับเมืองรองให้เป็นเมืองหลัก ต้องยกระดับการท่องเที่ยว ในกลุ่มจังหวัด จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร เพิ่มเส้นทางการคมนาคม มีการเพิ่มเที่ยวบินตรงจาก กทม.-นครพนม จากวันละ 3 ไฟลต์ ของสายการบินแอร์เอเชีย เป็น 6 ไฟลต์ โดยมีสายการบินไลออนแอร์เพิ่มขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จในปี 2568

อีกทั้งเพิ่มมิติคมนาคมที่ทำเสร็จแล้ว คือ ด้านทางบก ทำถนน 4 เลน เชื่อมต่อ 3 จังหวัด จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร และกำลังดำเนินการก่อสร้างโครงการถนนเลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (แห่งที่ 2) -พระธาตุพนม จ.มุกดาหาร, นครพนม

เร่งก่อสร้างรถไฟรางคู่

เร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. โดยปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 14.46 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2571 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปี และรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปี และยังได้มีแผนงานโครงการรถไฟสายใหม่ในอนาคต อีก 3 โครงการ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึง ระบบรางสู่การเป็น Gateway

เร่งก่อสร้างศูนย์การขนส่งสินค้าชายแดนจังหวัดนครพนม เปิดบริการได้ในปี 2568 เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R12 เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้ และรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง ระหว่างทางถนน และทางราง สนับสนุนการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และเป็นศูนย์รวบรวม และกระจายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ ที่ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)

พร้อมหนุนตั้งคณะแพทย์

นางมนพรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เตรียมเสนอ ครม. จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งเป็นโครงการที่ทำมานานแล้ว โดยปกติการจะมีคณะแพทยศาสตร์ ต้องมีคณะวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักศึกษาแพทย์ต้องเรียนด้านวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยนครพนมมีคณะวิทยาศาสตร์แล้ว จึงมีความพร้อมที่จะเปิดคณะแพทยศาสตร์

ในจังหวัดแถบอีสานเหนือไม่มีมหาวิทยาลัยที่ผลิตแพทย์ได้ มีเพียง ม.ขอนแก่น จึงตั้งเป้าให้มีคณะแพทยศาสตร์ให้เกิดขึ้นในปี 2570 รวมถึงให้มีคณะพยาบาลศาสตร์ จึงขอตั้งคณะแพทยศาสตร์ด้วย เพื่อลดปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ เพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลนครพนม