เพื่อไทย VS พรรคร่วม รัฐบาลตบจูบ อยู่ครบเทอม 4 ปี

เพื่อไทย VS พรรคร่วม
คอลัมน์ : Politics policy people forum

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นกัปตัน

กำลังเผชิญแรงกดดันรอบทิศทาง และนับวันนาฬิกาการเมืองยิ่งเดินถอยหลัง อีกแค่เพียงปีครึ่งนักเลือกตั้งก็ต้องเดินหน้าเข้าสู่คูหา

กับประเด็นชี้เป็นชี้ตายของรัฐบาล คือปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล แม้หน้าฉากบุคคลสำคัญในรัฐบาลออกมาสร้างซีนสมานฉันท์ กลมเกลียว แต่หลังฉากยังมีความไม่ลงรอยให้เห็น

ความขัดแย้งต่อกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) จากปมที่ “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศดังฟังชัด ไม่รับกาสิโน เป็นตัวอย่างชัดเจน ทำให้ สส.พรรคเพื่อไทย ตะเพิดพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ยังไม่นับ “สงคราม” ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร คือเกมล้ม สว.สีน้ำเงิน โดยกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ฝ่ายค้าน-พรรคประชาชนถึงขั้นวางแผนเตรียมตัวเลือกตั้งไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะฟันธงว่ารัฐบาลเพื่อไทยอยู่ไม่ครบเทอม เนื่องจากปัญหาในพรรคร่วมแตกความสามัคคี ซ้ำยังมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่แก้ไม่ตก

ADVERTISMENT

งานหินวิปรัฐบาล

“วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ในช่วงสภา “พักรบ” ชั่วคราว ปิดสมัยประชุมสภา โดยเขายอมรับว่าในการเป็นประธานวิปช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ “ของง่าย” เพราะต้องบริหารอารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาล 10 พรรค

เขาย้ำว่า หากพรรคไหนถอนตัวร่วมรัฐบาล ตัวเขาจะเหนื่อยที่สุด เพราะขนาดมี 10 พรรค 320 เสียง เวลาจะโหวตญัตติต่าง ๆ ยังผ่านคาบเส้นไม่กี่เสียง ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัวออกไปก็จะเกิดภาพที่ทุกวันพุธ วันพฤหัสฯ บรรดารัฐมนตรี สส.จะต้องเข้าสภา ห้ามขาด ห้ามลา

ADVERTISMENT

“เป็นประธานวิปช่วงนี้ไม่ง่าย หินสุด ๆ เพราะมี 10 พรรคการเมือง แค่ทำองค์ประชุมไม่ล่มก็หนักหนาสาหัส ตั้งแต่มารับตำแหน่งองค์ประชุมไม่ล่มสักครั้ง แต่ใจเต้นตุ๊บ ๆ ตลอด ต้องคอยติดตามพรรคนู้นพรรคนี้ ตาต้องดู สมองต้องคิด ต้องดูว่าลงมติอะไร สส.ในสภาอยู่ไหน ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องยากลำบากที่จะนำคน 10 ครอบครัวมารวมกัน และลงมติให้เป็นไปตามที่ประชุมวิปรัฐบาลที่เราทำ ความเป็นอาวุโส เพื่อน พ้อง น้องพี่ ต้องขอความร่วมมือ”

“บางคนมองว่าง่าย แต่จริง ๆ ไม่ง่าย พูดยากที่สุดคือพูดกับ สส. เพราะเขาก็คิดว่าเขาชนะในเขตเลือกตั้งมา มีฐานเสียง มีมวลชน และเมื่อรวมกัน 10 พรรค ยิ่งเหนื่อย ดีเอ็นเอไม่ตรงกัน บางครั้งมาพูดต้องใช้เวลา ประนีประนอมกัน กว่าจะเดินหน้าไปแต่ละสัปดาห์ได้ ดังนั้น เป็นความพยายามอย่างสูงในการเป็นประธานวิป”

สิ่งที่ สส.โหวตในสภาส่วนมากเป็นมติวิป แต่ละพรรคต้องไปอธิบายที่มาที่ไปก่อนลงกฎหมาย เมื่อมติในพรรคเป็นไปตามมติวิปก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น บางเรื่องหลังไมค์ต้องเจรจากันบ้าง มีการคุยกัน แต่ในทางการเมืองไม่มีใครได้ 100% บางอย่างได้ 70 บางอย่างได้ 50 ต้องดูว่าส่วนใหญ่ประเทศชาติได้ประโยชน์ขนาดไหน บางทีการเป็นวิปไม่ใช่เด็ดขาดอย่างเดียว ต้องมีประนีประนอม

“การเมืองมีทั้งเรื่องความไว้วางใจ ผลประโยชน์ของพรรค ผลประโยชน์ของประชาชนร่วมกัน แต่หลัก ๆ ต้องประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ประชาชนได้ประโยชน์ขนาดไหน บางเรื่อง
อาจยอมเขาได้”

ไม่ทุจริต รัฐบาลอยู่ได้

วิสุทธิ์นึกปัจจัยที่จะมาเขย่ารัฐบาลแพทองธาร ว่าไม่มีอะไรจะเขย่ารัฐบาลได้

“ถ้ารัฐบาลทำอะไรจริงจัง แก้ไขปัญหาได้ ไม่มีอะไรมาเขย่ารัฐบาลได้หรอก อะไรที่เป็นปัญหา เช่น ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม รัฐบาลต้องจริงจัง จัดการให้คนผิดเข้าคุก แต่อย่าไปทุจริตก็อยู่ได้สบายไม่มีปัญหา”

แล้วความขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เขาตอบว่าเป็นเรื่องภายในของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหัวหน้าพรรค (อนุทิน ชาญวีรกูล) ต้องคุยกับเลขาธิการพรรค (ไชยชนก ชิดชอบ) ต้องไปคุยทำความเข้าใจกันเอง ถ้าเขาทำความเข้าใจกันได้ก็สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ได้ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ส่วนจะร้อนแรงไหม อย่าไปคิดถึงร้อนแรงเลย ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้หมดถ้าทำความเข้าใจกัน ต้องทำความเข้าใจพรรคร่วม ในคณะรัฐมนตรี ผมไม่ทราบในส่วนนี้ ไม่ได้เกรงกระแสอะไร แต่เกรงตรงที่ต้องทำความเข้าใจพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคประชาชน ตอนเป็นฝ่ายค้านสมัยที่แล้วก็พูดเรื่องนี้กันเยอะแยะหลายคน ดังนั้น ถ้าคิดว่าข้างหน้ามีปัญหาก็จะทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น บางเรื่องต้องเดินหน้าก่อน”

ตบจูบกันครบเทอม

วิสุทธิ์มั่นใจว่า แม้มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล แต่สถานการณ์อย่างนี้นี่แหละจะทำให้รัฐบาลแพทองธารอยู่ครบเทอม

“เราเคยมี 377 เสียง ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยไม่ครบเทอม แต่ดูว่าครั้งนี้ (รัฐบาลแพทองธาร) อยู่ครบเทอม เพราะไม่มีพรรคไหนที่เข้มแข็งจะลากไปทางใดทางหนึ่ง ทางนั้นบ้าง ทางนี้บ้าง สุดท้ายกล้อมแกล้ม ตบจูบกันไป อยู่ครบ 4 ปีเป็นเรื่องปกติ”

จะไม่มีพรรคไหนถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาล “วิสุทธิ์” กล่าวว่า “ผมว่าไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้านในขณะนี้”

มีเวลา 2 ปี แสดงฝีมือ

ส่วนแผนการเตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไป ในจังหวะที่ “ลายเซ็น” พรรคเพื่อไทยไม่เข้มแข้งเท่ายุคไทยรักไทย “วิสุทธิ์” บอกว่ายังมีเวลาอีก 2 ปีที่ต้องแสดงฝีมือ ทำดีประชาชนก็เลือก 2 ปีต้องแก้ไขปัญหา เพราะต้องยอมรับว่าเราเข้ามาในภาวะที่ประเทศอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ยังมีปัญหากับอเมริกา ปัญหาสงครามที่เกิดขึ้นหลายที่ นายกฯ และ ครม.ต้องแสดงฝีมือ ทำดีประชาชนศรัทธาเป็นเรื่องปกติ ถ้ารัฐบาลทำได้ก็สร้างความเชื่อมั่น ฟื้นฟูมาได้หมด

นายกฯ เจนวายรับมือไหวไหม ประธานวิปรัฐบาลบอกว่า นายกฯอิ๊งค์เก่ง อยู่บ้านนักการเมืองมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน นายกฯ เป็นคนตัดสินใจไวมาก คิดว่าคนหนุ่มสาวจะตัดสินใจเพื่อชาติบ้านเมือง พาบ้านเมืองไปรอด ด้วยความขยันขันแข็ง มีความคิด มีทุ่มเท ได้รับความคิดทางการเมือง มีคนช่วยหลายคน อีกระยะคิดว่านายกฯ ทำได้

ม็อบไม่แรง ไม่มีเจ้าภาพ

“ส่วนม็อบต่าง ๆ ถ้าไม่มีนายทุนม็อบก็อยู่ไม่ได้ คนที่อยากให้ล้มรัฐบาลจ่าย วันนี้คนจ่ายมีเจ้ามือไหม ขนคนมา ผมก็เคยขนคนมาต้องจ่ายเงินค่าข้าว 3 มื้อ ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย ๆ”

“เหมารถจากอุบลราชธานีมาทำไม ถ้าไม่ได้เดือดร้อนจริง ๆ ก็เห็นอยู่ว่าใครเหมารถให้ แต่ไม่อยากให้ถึงจุดนั้น วันนี้คนก็ไม่อยากให้ถึงจุดนั้น มีบ้างคนที่มีมาร้องเรียนเรื่องหมู เรื่องวัว เรื่องข้าวบ้าง ก็ไม่ใช่ม็อบที่ปักหลักสามเดือน หกเดือน แต่ค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นล้าน…ไหวหรือ”

ถามว่าพลังมือที่มองไม่เห็นในวันนี้ไม่เข้มแข็งเท่าตอนไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ เขาตอบจากประสบการณ์การเมือง 30 กว่าปีว่า “ผมเชื่อมั่นว่าทุกอย่างอยู่ในทิศทางที่ดีแล้ว ถ้าเราดู บ้านเมืองดีแล้ว สามารถอยู่ได้”