อสส.ฟ้อง”อริสมันต์-4 เอกชน” ร่วม”วัฒนา เมืองสุข”คดีร่วมทุจริตบ้านเอื้อฯชุด 2

อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง “อริสมันต์-4 เอกชน” ร่วม”วัฒนา เมืองสุข” คดีร่วมทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติชุด 2

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ได้มอบอำนาจ ให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นำตัว น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับผู้แทน บริษัท พรินซิพเทคไทย จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ในคดีร่วมทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ พร้อมสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิดร่วมกับ นายวัฒนา เมืองสุข อายุ 60 ปี อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 กับพวกซึ่งเป็นเอกชน และอดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (บอร์ด) หรือ กคช.รวม 19 ราย

โดยวันนี้ เป็นการยื่นฟ้องจำเลยชุดที่ 2 แล้ว ซึ่งจำเลยที่ยื่นฟ้องวันนี้ มีทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อายุ 54 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 2.บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด 3.บริษัท นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 4.บริษัท พรินซิพเทค ไทย จำกัด 5.น.ส.สุภาวิดา คงสุข กก.ผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยูฯ ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน นายวัฒนาอดีต รมว.พม.ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่ตนเองหรือผู้อื่น และสนับสนุน “นายมานะ วงศ์พิวัฒน์” อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (บอร์ด) หรือ กคช. ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 , 91

ซึ่งการยื่นฟ้องวันนี้ มีตัวผู้ถูกกล่าวหามาพบอัยการเพื่อนำตัวมาฟ้องเพียง 2 คน คือผู้แทน บจก.พรินซิพเทคไทย และน.ส.สุภาวิดา คงสุข กก.ผู้มีอำนาจทำการแทน บจก. ไทยเฉนหยูฯ โดยได้รับการประกันตัวหลังฟ้องไป ด้วยเงินสดวงเงิน 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล

ส่วน นายอริสต์มันต์ ,บจก.พาสทิญ่าไทย และ บจก.นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่นฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ที่วันนี้ยังไม่ได้เดินทางมาพบอัยการเพื่อนำตัวมายื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ อัยการก็ได้ยื่นฟ้องไปเฉพาะสำนวนก่อนแบบที่ยังไม่มีตัวผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรวตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 ใหม่ ขณะที่ในชั้นนี้ยังไม่มีการออกหมายจับนายอริสมันต์ และผู้แทนนิติที่ยังไม่ได้นำตัวมาส่งฟ้อง เเต่หากในวันนัดพิจารณาครั้งเเรก จำเลยที่อัยการสั่งฟ้องไปเเล้วยังไม่มาปรากฎตัวครั้งเเรกต่อศาล ก็จะสามารถดำเนินการออกหมายจับเพื่อนำตัวมาพิจารณาคดีได้ต่อ

ขณะที่ศาลฎีกาฯ รับคดีที่ฟ้องนี้ไว้ในสารบบคดีหมายเลขดำ อม.102/2561 เพื่อพิจารณาคำฟ้องและมีคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องไว้พิพากษาหรือไม่ต่อไป ภายหลังที่จะมีการนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา ภายใน 14 วันหลังฟ้องเพื่อลงคะแนนเลือกผู้พิพากษา 9 คน ระดับตั้งแต่ผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาเพื่อเป็นองค์คณะรับผิดชอบสำนวน

ทั้งนี้ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวว่า ในวันนี้มีเพียง ตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจนิติบุคคล บจก.พรินซิพเทค ไทย เเละ น.ส.สุภาวิดา เดินทางมาพบอัยการ จึงได้นำตัวพร้อมสำนวนไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ส่วนนายอริสมันต์ ได้รับทราบนัดเเล้วส่งตัวเเทนมาพบอัยการรับฟังคำสั่งฟ้องในวันนี้ด้วย ส่วนผู้แทน บจก.พาสทิญ่าไทย และ บจก.นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่นฯ อัยการยังไม่สามารถติดต่อได้ เเต่ก็ได้ยื่นสำนวนฟ้องไปตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะต้องรอว่าหลังจากยื่นฟ้องไปเเล้วศาลจะมีคำสั่งอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาพนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริต ได้ยื่นฟ้อง จำเลยชุดแรกไปแล้ว 9 ราย ประกอบด้วย นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พม. , นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตบอร์ดกคช.และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการระหว่างวันที่ 9 กันยายน48 – 19 กันยายน 2549 , นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย , นายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ , น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง , น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด , น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ , บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน และบริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉน หยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) โดยนางพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน ซึ่งศาลฎีกาฯ รับเป็นคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 และนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น

โดยคดีนี้ นายวัฒนาได้รับการประกันตัวไป ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข สั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

 


ที่มา:มติชนออนไลน์