4 ปี ไทยสร้างไทย ใต้ร่ม ‘สุดารัตน์’ เดินหน้า-เดิมพัน ไม่แคร์ขาดทุนการเมือง

ครบ 4 ปี ที่ผู้มีฉายา ‘เจ้าแม่ กทม.’ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เปิดการเดิมพันการเมืองครั้งสุดท้าย ตั้งพรรคไทยสร้างไทย

4 ปีก่อน “เจ๊หน่อย” ใช้วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 คิกออฟพรรคไทยสร้างไทย อย่างเป็นทางการ
“ชีวิตการเมืองของดิฉันเดินมาถึงปีที่ 29 ได้ผ่านและเห็นอะไรมามาก ไม่ได้มุ่งหวังเกียรติยศ ชื่อเสียง ตำแหน่ง หรืออำนาจใด ๆ อีกต่อไปแล้ว นอกจากความสุขและความอิ่มใจที่จะสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน ดิฉันตั้งใจทำภารกิจครั้งสุดท้ายชีวิตการเมืองในการก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทยเพื่อเป็นเครื่องมือนำประเทศออกจากความตกต่ำและความเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น นำประเทศไทยสู่ความรุ่งเรือง และนำความผาสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ผ่านมา 4 ปี พรรคไทยสร้างไทย ของเจ้าแม่ กทม. ผ่านการเลือกตั้งใหญ่ 1 ครั้ง ในสมรภูมิเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 คว้า สส.ได้ 6 ที่นั่ง แบ่งเป็น สส.เขต 5 ที่นั่ง ประกอบด้วย นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด, นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ส.ส.อุบลราชธานี, นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ ส.ส.อุดรธานี, นายหรั่ง ธุรพล ส.ส.อุดรธานี และนางสุภาพร สลับศรี พรรคไทยสร้างไทย ส.ส.ยโสธร และ สส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง ฐากร ตัณฑสิทธิ์ (แทนคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ลาออกจาก สส.) แต่ด้วยรอยแค้นทางการเมือง ระดับฝังลึก ไทยสร้างไทย ไม่อาจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จึงรับบท ”ฝ่ายค้าน“ ร่วมกับพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งผ่านมา 2 ปี การเดิมพันการเมืองครั้งสุดท้ายของ “เจ้าแม่ กทม.” ดูเหมือนขาดทุน มากกว่าเป็นกำไร เพราะ 6 สส. กลายเป็นฝ่ายที่โหวตสวนกับมติฝ่ายค้าน มติพรรค ไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในรอบที่ผ่านมา มี สส.พรรคไทยสร้างไทย 5 เสียงยกมือไว้วางใจ คือ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย กลายเป็นพรรค 1 เสียงอย่างไม่เป็นทางการ

และในช่วงนับถอยหลัง 1 ปีครึ่งของรัฐบาลแพทองธาร ที่จะมี “อำนาจเต็ม” ในการบริหารประเทศ เกิดปรากฏการณ์ที่ “พรรคกล้าธรรม” พรรคสาขาใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นกุนซือเบื้องหลัง ดีล 2 คนการเมือง มือขวา – มือซ้าย ของ “เจ๊หน่อย” คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ การุณ โหสกุล ไปร่วมพรรค

เดินหน้าต่อ ไม่สนขาดทุน

4 ปี ไทยสร้างไทย แลดูขาดทุนทางการเมือง แต่ “เจ๊หน่อย” แย้งว่า ดิฉันมองว่าเป็นความรับผิดชอบที่เราต้องขอโทษประชาชน แต่มีข้อจำกัดของเวลาในการหล่อหลอมให้คนมีอุดมการณ์เดียวกัน ถือว่าเป็นความผิดพลาด

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม หากมีคนไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ของพรรค เขาจะออกไปก็ไม่เดือดร้อนอะไรกับคนที่ยังอยู่ สำหรับพรรคไทยสร้างไทย

“เราไม่ได้มองว่าเป็นการขาดทุนทางการเมือง เรื่องคนไม่ใช่ปัญหา จุดยืนและอุดมการของพรรคคือแก่นหลักของพรรค ดังนั้นย้ำว่าไม่มีปัญหา และพรรคไทยสร้างไทยไม่ใช่ของใครคนใดคนนึง วันหนึ่งตนอาจจะเสียชีวิต หรือคนหนึ่งอาจจะไม่อยู่ ก็ไม่เป็นไร เพราะพรรคนี้มีไว้สำหรับคนที่ทนปัญหาของประเทศไม่ได้”

ส่วนมือซ้าย – มือขวา น.อ.อนุดิษฐ์ และ การุณ โหสกุลที่ออกไป ถือว่าจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ เธอตอบว่า “เขามาหาพี่หลายครั้ง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนเมื่อไม่นานมานี้ก็มาพูดให้ฟัง ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ขัดขวางใดๆ เขาเป็นน้อง และเมื่อเขาเห็นว่ามีพรรคที่เหมาะสมกับเขา ก็ต้องสนับสนุนและยินดี และไม่มีปัญหาเพราะเรามีบุคลากรมากมาย“

” รวมถึงคนที่เข้ามาใหม่มาร่วมกันทำงาน พรรคไทยสร้างไทยก็เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ช่วงนี้มีคนเข้าคนออก แต่เราก็จะทำงานต่อไป เพราะจุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่คน แต่อยู่ที่ว่าพรรคยังรักษาอุดมการณ์หรือนโยบายดีๆหรือไม่”

“เจ้าแม่ กทม.” ยังเดินหน้าทำการเมืองในการเดิมพันครั้งสุดท้ายต่อ

“ทำค่ะ หลายคนบอกว่าน่าจะหยุดได้แล้ว โดยเฉพาะคนในครอบครัว แต่ขณะเดียวกัน ในครอบครัวเองเมื่อเห็นปัญหาของประเทศเป็นแบบนี้ ก็อยากให้ดิฉันทำพรรคนี้“

แม้ว่าจะมี สส. หลายคนทิ้งพรรค? เธอตอบว่า ไม่มีปัญหา ต้องแยกแยะ เพราะช่วงหลังเลือกตั้ง มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งเรามีการถกกันหลายรอบ ดังนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่คนอยากไปร่วมรัฐบาลก็ต้องพยายามหาทางไปร่วมรัฐบาล ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ทำงานให้กับพรรค และเราไม่คิดว่าจะต้องเป็นศัตรูกัน

อย่างไรก็ตามหากมีความผิดร้ายแรง เราก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายจริยธรรม

ส่วนการโหวตพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 หากมี สส.ไทยสร้างไทย โหวตสวนมติฝ่ายค้านอีกจะทำอย่างไร ”คุณหญิงสุดารัตน์“ กล่าวว่า ได้พูดไปแล้ว แต่เค้าจะโหวตอย่างไร ต้องไปถามเขาในเรื่องดำเนินการด้านจริยธรรม ยืนยันไม่ขับ ทั้ง 6 คนก็ยังเป็นสมาชิกพรรค”

อ่านแถลงการณ์จุดยืน

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังอ่านแถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย ว่า กรณีที่มีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยบางส่วนได้ลาออกจากพรรค หรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ทางพรรคยอมรับว่าเกิดจากความแตกต่างทางแนวคิดตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ซึ่งสมาชิกส่วนหนึ่งต้องการที่จะไปร่วมรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งต้องการรักษาจุดยืนและคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชน โดยขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เรามีการประชุมกันหลายครั้ง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคไทยสร้างไทยต้องรักษาจุดยืนอุดมการณ์ของพรรค ในการมุ่ง“สร้างการเมืองสุจริต” โดยพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนหยัดทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดถือผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

หลังจากนั้น จึงเกิดเหตุการณ์ อย่างที่ทุกท่านทราบว่ามีสส.บางส่วนไม่ปฏิบัติตามมติพรรค แสดงตัวไปร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมของพรรค ที่มีดร.โภคิน พลกุล เป็นประธาน กำลังดำเนินการตามกฎหมาย ต่อการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของสมาชิกที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกเข้ามา และไม่ซื่อสัตย์ต่อพรรค ทั้งที่พรรคได้ทุ่มเทให้เขาอย่างสุดกำลัง จนทำให้คนเหล่านี้ได้เป็นผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ และหวังว่าเขาเหล่านั้นจะทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคไทยสร้างไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดนี้ เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมากในการหล่อหลอมอุดมการณ์ความคิด เพราะหลังจากที่พวกเราออกจากพรรคเดิม ไม่นานก็ต้องเข้าสู่การเลือกตั้ง

ป๊อป-เก่ง ลาออกไม่กระทบ

ส่วนกรณีของนอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล ที่ได้แสดงความจำนงไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรคไทยสร้างไทยแต่ประการใด เราขอแสดงความยินดีที่ทั้งสองได้ตัดสินใจไปอยู่ในที่ๆคิดว่าเหมาะสมกับตนเอง โดยทั้งสองคนได้มาแจ้งต่อคุณหญิงสุดารัตน์ หลายเดือนมาแล้ว ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ก็ไม่ขัดข้อง เข้าใจในความจำเป็น เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค
พรรคไทยสร้างไทยขอยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้กระทบต่อความมุ่งมั่นของพรรคไทยสร้างไทย แต่กลับจะ“เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงพรรคไทยสร้างไทยให้เข้มแข็งขึ้น” เพราะปัญหาที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่นี้มันยิ่งใหญ่กว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยสร้างไทยมากนัก

สู้ระบอบสีเทา

ประเทศไทยในวันนี้ กำลังยืนอยู่บนรอยร้าวลึกในหัวใจของคนไทยที่“หมดศรัทธา”กับการเมืองไทย เพราะบ้านเมืองนี้ถูกกัดกร่อนจาก “นักการเมืองสกปรก” และ “ระบบสีเทา” เราเห็นนักการเมืองที่ไม่เคยยึดประโยชน์ประชาชน เราเห็นระบบที่เปิดทางให้ทุนสีเทาเข้ามายีดเศรษฐกิจไทย กฎหมายถูกบิดเบือน การใช้อำนาจเพื่อเอื้อพวกพ้อง การทุจริต กลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราชาชินจนทำให้คนไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม หนี้สินท่วมหัว ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศตกต่ำ แถมด้วยยาเสพติด การพนัน ที่ผิดกฎหมายแต่เข้าถึงคนไทยได้ง่ายยิ่งกว่าเข้าร้านสะดวกซื้อ เป็นประเทศที่เสมือนไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้ เราเข้าใกล้การเป็นรัฐล้มเหลว” เต็มทีแล้ว

ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งที่ประเทศไทยเต็มไปด้วยทรัพยากร เรามีคนเก่ง และคนดีมากมาย แต่กลับติดหล่มเพราะระบบการเมืองที่เน่าเฟะ ใช้เงินซื้อเสียง ซื้อ สส. แล้วก็เข้าไปโกง อย่างมโหฬาร

ทวงคืนเงินในกระเป๋า ปชช.

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง รื้อระบบสีเทา” ที่เต็มไปด้วยการทุจริต พรรคไทยสร้างไทย เราจะไม่ยอมจำนนพรรคไทยสร้างไทยไม่ใช่พรรคของใครบางคน แต่คือพรรคของประชาชนที่ไม่ทน กับความเหลวแหลกตกต่ำที่กำลังครอบงำประเทศเราขอเชิญชวน คนดี คนมีความรู้ และกล้าสู้ มารวมพลังเป็นแสงสว่างฉายลงไปบนความมืดมิดของการเมืองไทย เพื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจ

ทวงคืนเงินในกระเป๋าของประชาชน แก้หนี้อย่างเป็นระบบ ทุ่มกำลังฟื้นฟูการผลิต ปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรม High Technology ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกพลิกฟื้น SMEs ให้เข้มแข็งปฏิรูปการศึกษา พร้อมพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นทางออกที่สำคัญที่จะทำให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้นพร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจไทย กอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อทำให้การท่องเที่ยวกลับคืนมา โดยเฉพาะ ในด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อมต้องถูกฟื้นฟู สยามเมืองยิ้มต้องกลับมาเพื่อคืนความสุขให้คนไทย

สร้างการเมืองสุจริต

เป้าหมายไทยสร้างไทยคือสร้างการเมืองสุจริตสร้างเศรษฐกิจดีสร้างไทยให้โดดเด่นกล้าผ่าโครงสร้างที่ฉุดรั้งประเทศส่งเสริมสถาบันหลักให้เข้มแข็งพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าเราจะไม่มีวันยอมแพ้ ต่อระบบที่กำลังทำร้ายประเทศไทย แต่เราทำงานใหญ่นี้เพียงลำพังไม่ได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังเชื่อใน #ความถูกต้อง มาร่วมกันสร้าง #การเมืองสุจริตมาร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยไปกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้ทุกคนรอดในวิกฤตนี้