
นายกฯ กำชับบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจทบทวนงบฯ 1.57 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือภาษีสหรัฐ-เก็บภาษีต่ำกว่าเป้า ย้ำรอบคอบยึดตามกฎหมาย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงต้นการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีภาวะผันผวน เนื่องจากมีการประกาศนโยบายภาษีศุลกากร (TARIFF) ตอบโต้ของประเทศมหาอำนาจ ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้ต้องปรับตัวและหาทางออก
ส่วนตัวได้หารือกับประเทศอาเซียน รวมถึงนายกรัฐมนตรีอินโดนีเซียในเรื่องนี้ ทำให้เห็นว่ามีผลกระทบโดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทยที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศ ประกอบกับการจัดเก็บภาษีที่เป็นรายได้ของรัฐบาลคาดว่าต่ำกว่าเป้าหมาย
จึงต้องทบทวนโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล พร้อมเร่งปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ สร้างการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs จึงเป็นที่มาของการประชุมในวันนี้ เพื่อร่วมกันคิดและเสนอแผนสถานการณ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และขอให้พิจารณากันอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกฯ กล่าวกับบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ฝ่ายเลขาฯ คณะกรรมการได้มีการชี้แจงข้อมูลกับที่ประชุม โดยแจ้งว่ากรอบงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 คงเหลืออยู่ประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งต้องปรับให้เข้ากับการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจ โดยต้องดำเนินการให้ทันภายในปีงบฯ 2568