
คอลัมน์ : Politics policy people forum
แผ่นดินการเมืองสะเทือน เพราะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อของนายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน แพทองธาร ชินวัตร ลั่นวาจา จะขอกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ในการครอบครองของพรรคภูมิใจไทย คืนให้พรรคเพื่อไทย
“การนำนโยบายไปถึงประชาชน กระทรวงหลักคือกระทรวงมหาดไทย วันนี้มันไม่ค่อยถึง เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยยังไม่ค่อยทำเต็มที่ เวลามันเหลือ 2 ปีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่มหาดไทยต้องทำงานให้เต็มที่”
เมื่อ “ทักษิณ” ส่งสัญญาณชัด จึงเกิดข่าวลือตามมาอีกระลอก คือ สัญญาณการขอสลับกระทรวง กับพรรคภูมิใจไทย ให้ “อนุทิน” ไปคุมกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงพาณิชย์
แล้วโผ มท.1 คนใหม่ คือ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกฯและ รมว.ดีอี
3 วันต่อมา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดหน้าให้สัมภาษณ์ว่า “ยังไม่มีการพูดเรื่องการปรับ ครม. กับนายกฯ หรือท่านทักษิณ เพราะเมื่อนายกฯบอกว่า ไม่มีอะไร ก็ต้องเชื่อนายกฯ ดังนั้นจึงต้องถามนายกฯ ถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนกระทรวง”
มีการวิเคราะห์หลังฉากการเมืองว่า อดีตนายกฯทักษิณ ไม่พอใจ ในหลายเรื่องทั้งการที่ สว.สีน้ำเงิน ขวางการเดินหน้าดันกฎหมายสำคัญอย่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่ส่อแววจะ “ล่ม” แล้วในนาทีนี้ ยังลามถึงกฎหมายการพนันออนไลน์ที่กำลังพยายามผลักดัน ก็มีทีท่าจะไม่ถึงฝั่ง
ยังรวมกับปัจจัยสงครามตัวแทนระหว่าง สว.สีน้ำเงิน กับดีเอสไอ ส่งผลให้สัมพันธภาพทางการเมืองระหว่าง ทักษิณ กับผู้มีบารมีพรรคสีน้ำเงิน ทั้งเบอร์ 1 เบอร์ 2 ไม่ค่อยราบรื่นอีกต่อไป
ประกอบกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เหลือเวลาอีก 1 ปีครึ่ง ต้องอาศัยกลไกการเมือง การปกครอง เข้าถึงประชาชน เพื่อตุนแต้ม-ตุนคะแนน ก่อนเข้าโค้งเลือกตั้งในปี 2570 หรือเร็วกว่านั้น
งบฯ มท.แสนล้าน
นอกจากกระทรวงมหาดไทย มีกลไกการเมือง-การปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ยังมีเม็ดเงินนับแสนล้านบาท เป็น “แต้มต่อ” ทางการเมืองสำคัญ เตรียมตัวเลือกตั้งปี 2570
ในร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่สภาผู้แทนราษฎร เพิ่งลงมติ “รับหลักการ” ไปเมื่อ 30 พฤษภาคม กระทรวงมหาดไทยของบประมาณทั้งสิ้น 301,264,973,700 บาท ดังนี้
สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งงบฯไว้ 6,454,245,000 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 1,898,508,900 บาท แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 42,730,600 บาท แผนงานยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ 6,134,800 บาท แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 20,936,000 บาท
แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 3,359,400 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาบริการประชาชน และการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐ 4,379,920,800 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 102,654,500 บาท
กรมการปกครอง ตั้งงบฯไว้ 52,387,711,800 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 40,972,830,300 บาท แผนงานยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ 2,572,506,100 บาท แผนงานยุทธศาสตร์จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ 30,087,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหา ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง 236,006,400 บาท
แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 8,400,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาบริการประชาชน และการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐ 7,680,525,800 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 887,356,200 บาท
กรมการพัฒนาชุมชน ตั้งงบฯไว้ 5,704,094,900 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 3,028,086,400 บาท แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างพลังทางสังคม 1,477,013,500 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก 1,050,716,100 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 148,278,900 บาท
กรมที่ดิน ตั้งงบฯไว้ 7,800,631,500 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 4,476,305,300 บาท แผนงานยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดิน 494,261,300 บาท แผนงานยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และป้องกันการทําลายทรัพยากรธรรมชาติ 157,728,800 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาบริการประชาชน และการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐ 2,393,945,300 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 278,390,800 บาท
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งงบฯไว้ 7,026,425,300 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 1,322,921,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ 5,703,504,300 บาท
กรมโยธาธิการและผังเมือง ตั้งงบฯไว้ 42,280,357,100 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 1,289,374,100 บาท แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 1,525,000,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหา ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง 6,844,580,800 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ 16,981,986,700 บาท
แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 11,074,556,700 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 65,765,800 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 4,499,093,000 บาท
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตั้งงบฯไว้ 179,611,508,100 บาท แบ่งเป็น งบฯรายจ่ายบุคลากร 1,544,558,100 บาท แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 775,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 2,059,200 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ 24,411,000 บาท
แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างให้คนมีสุขภาวะที่ดี 131,493,500 บาท แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 176,869,542,700 บาท แผนงานยุทธศาสตร์จัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม 21,037,600 บาท แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างประสิทธิภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 14,197,000 บาท แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาบริการประชาชน และการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐ 725,965,800 บาท และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 277,468,200 บาท
ไม่นับงบฯ รัฐวิสาหกิจในกำกับอย่าง การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค องค์การตลาด องค์การกำจัดน้ำเสีย เป็นขุมทรัพย์อีกมหาศาล
เบิกงบฯ กระตุ้นเศรษฐกิจ 8 หมื่นล้าน
ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย ยังเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 จากงบฯกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
รวมจำนวนทั้งสิ้น 21,259 โครงการ งบประมาณ 79,960,372,305 บาท หากกระทรวงมหาดไทย ได้รับการอนุมัติตามนี้ จะมีเม็ดเงินกว่า 381,225,346,005 บาท
นี่คือ กระทรวงมหาดไทย ที่นอกจากคุมกลไกอำนาจรัฐ ยังมีกระสุน ไว้สำหรับเตรียมเลือกตั้งครั้งต่อไป