21 สส. รวมไทยสร้างชาติ เข้าชื่อยื่นนายกฯ ปรับ ครม. ในส่วนของพรรคทุกเก้าอี้

21 สส. รวมไทยสร้างชาติ เข้าชื่อยื่นนายกฯ ปรับ ครม. ในส่วนของพรรคทุกเก้าอี้

21 สส. รวมไทยสร้างชาติ เข้าชื่อยื่นนายกฯ ปรับครม.ของพรรค เหตุไร้คนเหมาะสม นั่งรัฐมนตรี ชี้คุณสมบัติต้องมี “ความสุจริตอันเป็นที่ประจักษ์”

วันที่ 9 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 21 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้อเสนอการปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ

ความว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งในด้าน
เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม อาทิ ความขัดแย้งระหว่างประเทศในภูมิภาค สงครามทางการค้า ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ การชะลอตัวของ

ความเปราะบางของผู้ประกอบการ SME ตลอดจนภาระค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และอาจบั่นทอนเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังขาดความรู้ความสามารถในการบริหารงาน รวมถึงการผลักดันนโยบายและการสร้างผลงานของรัฐมนตรี ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ

นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติโดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในหลายกรณี อันอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลโดยรวม

กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายการกระทำอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 และ 184 ซึ่งว่าด้วยการใช้อำนาจแทรกแซงการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

ADVERTISMENT

ตลอดจนประเด็นที่อาจเข้าข่ายการกระทำอันขัดต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 ซึ่งว่าด้วยการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันอาจส่งผลต่อสถานภาพและคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเห็นว่า คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “ความสุจริตอันเป็นที่ประจักษ์” ซึ่งถือเป็นหลักคุณธรรม พื้นฐาน และเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งของการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ด้วยกลไกภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติในปัจจุบันที่ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม มาช่วยขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำได้

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติตามรายชื่อแนบท้าย จึงได้หารือร่วมกันโดยยึดหลักความห่วงใยต่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ

จึงใคร่ขอเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติในทุกตำแหน่ง เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีเอกภาพ มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในภาวะวิกฤตเช่นปัจจุบันได้อย่างแท้จริง