
บทบรรณาธิการ
ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยในการขอคืนกระทรวงมหาดไทย ด้วยการแลกกับกระทรวงสาธารณสุข พ่วงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการปฏิเสธจากพรรคภูมิใจไทย และพร้อมที่จะออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็เกิดเหตุการณ์แทรกแซงเข้ามาจากคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการหารือที่มีลักษณะส่วนตัวและไม่เป็นทางการในความพยายามของฝ่ายไทย ที่จะคลี่คลายความตึงเครียดบริเวณด่านชายแดน อันเนื่องมาจากกรณี 3 ปราสาท 1 พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิและนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลโลก
ทั้ง 2 เหตุการณ์กำลังลุกลามบานปลายใหญ่โต จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง ที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล อันเนื่องมาจาก 1) ปัญหาการขอคืนโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเอง กับ 2) ความ “หมิ่นเหม่” ในการแสดงความเป็นผู้นำรัฐบาล ที่จะปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่จะคลี่คลายสถานการณ์การเผชิญหน้ากันตลอดแนวชายแดน ด้วยการเจรจาแบบสันติวิธีผ่านทางกลไกต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นมาในอดีต หรือการปะทะกันด้วยกำลังทหาร
ปัญหาข้อแรก ในเรื่องของกระทรวงมหาดไทยได้ลุล่วงไปแล้ว เมื่อพรรคภูมิใจไทยได้ “ปฏิเสธ” และขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยต้องยอมรับด้วยจำนวนเสียงสนับสนุนรัฐบาลที่จะลดลง แต่ปัญหาข้อหลัง ว่าด้วยคลิปเสียงที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้นั้น กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นของรัฐบาลทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ในกรณีนี้มีข้อสังเกตเพียงว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงทางการทูตอย่างเบาบางยื่นต่อ นายฮุน ซาเรือน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถึงการเผยแพร่คลิปเสียงนั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทที่ “ไม่สามารถยอมรับได้”
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ก็ได้ออกมา “ขออภัย” ถึงคลิปเสียงที่หลุดออกมาและเรียกร้องความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ของคนในชาติ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อม ๆ กับเกิดกระแสกัมพูชาเป็นภัยคุกคาม ทว่า เรื่องราวทั้งหลายกำลังถูกแปรผันให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง ที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น การปรับ ครม.ไปจนกระทั่งถึงการยุบสภาหรือการลาออก โดยมีเรื่องสำคัญที่รอการดำเนินการทั้งการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังถูกผลักดันให้กลายเป็นข้อพิพาทระดับโลก และการเจรจากับสหรัฐในเรื่องของการลดภาษี ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความมีเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของคนในชาติ ที่มีต่อรัฐบาลทั้งสิ้น