‘รัฐบาลอิ๊งค์ 1/1’ ขาไม่สั่น สส.แน่น 280 เสียง “ทหารอยู่ข้างเรา”

'รัฐบาลอิ๊งค์ 1/1' ขาไม่สั่น สส.แน่น 280 เสียง

ประธานวิปรัฐบาล สะท้อน รัฐบาลอิ๊งค์ 1/1 ประกาศทหารอยู่ข้างเรา เสียง สส.เกินกึ่งหนึ่ง แต่ไม่ขอเปิดเผยจำนวนที่แท้จริง หลังดีดภูมิใจไทยออก คุม มท.-เปิดหน้าสู้ตระกูลฮุน มั่นใจจากนี้ดันนโยบายเพื่อไทยถนัดมือ ยืนขาไม่สั่น 3 เดือน เห็นผลงาน

เดินหน้าไปกันต่อ ! “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” หลังเพิ่งเจอมรสุมลูกใหญ่จากการเมืองภายในและนอกประเทศ กรณีคลิปเสียงเจรจา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา อดีตผู้นำกัมพูชา จนทำให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ใช้เป็นเหตุประกาศถอนตัวออกจากพรรคร่วม หลังถูกยึดกระทรวงมหาดไทย

ณ วันนี้หากกดเครื่องคิดเลขหาผลสมการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลมีประมาณ 260 กว่าเสียง ฝ่ายค้านได้น้องใหม่พรรคภูมิใจไทย จะเพิ่มเป็น 234 เสียง แต่ผลลัพธ์หน้าฉากการเมืองนี้ยังไม่นับ สส.งูเห่า ที่ซ้อนตามพรรคการเมืองต่าง ๆ รอวันเจ้าของงูเป่าปี่ให้โชว์ผลงานตามแต่ละภารกิจ จึงยังไม่ชัดว่าสมการการเมืองวันนี้แท้จริงเป็นเท่าไหร่

แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือ การทำงานรัฐบาลเพื่อไทยจากนี้ ทั้งงานบริหารโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) งานในรัฐสภา จะราบรื่นหรือไม่ ประชาชาติธุรกิจคุยกับ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ประเมินถึงชะตารัฐบาลอิ๊งค์ ครึ่งเทอมหลังจากนี้

รัฐบาลอิ๊งค์ 1/1 ปึ้ก “ไม่เปิดเผยจำนวนที่แท้จริง”

วิสุทธิ์เริ่มด้วยการประเมินจำนวนเสียง สส.พรรคร่วมรัฐบาล คาดการณ์มีประมาณ 270-280 คน แม้ภูมิใจไทยถอนตัวออกไป แต่หลังจากที่วานนี้ (22 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรมโรสวูด ทำให้เห็นว่าพรรคอื่น ๆ ยังอยู่เหมือนเดิม รวมถึงมีบุคคลอยากเข้ามาร่วมงานกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ขอเปิดเผยจำนวนแท้จริง เนื่องจากเกรงทำให้เสียหาย แต่เชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาอยากนำนโยบายดี ๆ ไปให้ถึงประชาชน ซึ่งมองเป็นเอกสิทธิ์ของผู้แทนราษฎร

“มั่นใจว่าการทำหน้าที่วิปรัฐบาล สส.ทุกคนยังเข้มแข็ง ทุ่มเททำงานเพื่อนายกรัฐมนตรี แม้การทำงานหลังจากนี้ในวิปรัฐบาลอาจจะเหนื่อยหน่อย”

พรรคไทยสร้างไทยเข้ารัฐบาล เป็นเอกสิทธิ์ สส.

เมื่อถูกถามย้ำถึงความชัดเจนสถานะ 6 สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่สวนทางกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค วิสุทธิ์มองว่าจากสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ เมื่อผู้แทน (สส.) อยากมาทำงานในสภาเพื่อนำผลงานไปสู่พื้นที่ แม้คิดไม่ตรงกับเจ้าของพรรค ก็ถือเป็นเป็นเอกสิทธิ์ไม่สามารถบังคับได้ พร้อมยืนยันว่า เราไม่มีการซื้องูเห่า

ADVERTISMENT

“ทหารอยู่งฝั่งเรา”

ส่วนปัจจัยทำให้พรรครัฐบาลเนื้อหอม ประธานวิปรัฐบาลตอบอย่างมั่นใจ เขาเห็นว่า วันนี้ทหารก็ยังอยู่ฝั่งเรา แม้อาจจะมีความเข้าใจผิดบ้างช่วงก่อน แต่หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมีการโต้กลับ (กรณีกัมพูชา) มองว่า อิ๊งค์พร้อมทีมงาน ดูเข้มแข็ง มีพลัง มีทหารเป็นแบ็กอัพที่จะช่วยกันแก้ปัญหาประเทศชาติ ผมจึงเชื่อมันว่า มันยังไปได้

เมื่อถูกถามย้ำ ว่าผู้คอยเป็นแบ็กอัพ นายกฯอิ๊งค์ ในวันนี้นอกจากพรรคร่วมรัฐบาล มีทหารด้วยใช่หรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลถามกลับทันที วันที่นายกฯ แถลงร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ก็ยังมีทหารยืนเต็มไปหมด และอีกวันไปพบแม่ทัพภาค 2 (พล..บุญสิน พาดกลาง) เพื่อขอโทษ ฉะนั้นทุกอย่างก็ดูดี จึงมองว่าทุกอย่างก็เป็นมารยาทที่ดี ทำให้หลายคนที่เข้าใจผิดกลับมาเยอะแยะ หลังเข้าใจอะไร เพราะคนไทยไม่ควรแตกความสามัคคี ต้องช่วยกันสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ ชายแดน

นอกจากนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยมองว่าสิ่งที่ทำให้สถานะรัฐบาลแข็งแรงขึ้น เชื่อมั่นเมื่อพรรคเพื่อไทยกำกับกระทรวงมหาดไทย จะทำให้การทำงานเพื่อบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ ไปถึงประชาชนได้รวดเร็วและเป็นประโยชน์ แม้ที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรค

เพราะต้องยอมรับว่ากระทรวงมหาดไทย ดูแลผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จะนำนโยบายรัฐบาลลงไปให้ทั่วถึง เหมือนยุคหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยทำได้ผล แต่ที่ผ่านมาการทำงานมหาดไทยไม่เต็มที่ จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ปัญหาต่าง ๆ อาทิ พนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลายอย่างน่าจะจบจากการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้

ถ้าสองขา (รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย) บวกกันเมื่อไหร่ และกองทัพที่ดูแลชายแดน ผมเชื่อว่าการปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ น่าจะได้ผลขึ้น ซึ่งวันนี้ในวิกฤตก็มีโอกาส

ฝ่ายนิติบัญญัติ เผชิญหน้า สว.’

การที่รัฐบาลเพื่อไทยมีเสียง สส.มาถึง 270-280 เสียง ทำให้การทำงานในสภา เช่น โหวตร่าง พ.ร.บ.69 การอภิปราย ราบรื่นหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลบอกว่า ต้องยอมรับข้อเท็จจริงวันนี้ไม่เหมือนเดิม พวกเราในฐานะรัฐบาล ก็คงต้องทำงานกันหนักขึ้นหน่อย วันประชุมสภา พุธ-พฤหัสบดี ต้องขอให้รัฐมนตรีเข้ามาทำงานที่สภา เพื่อให้การโหวตวาระต่าง ๆ ไม่มีปัญหา

แต่ยังเชื่อว่าสถานะพรรครัฐบาลในสภา หลังจากนี้ยังไปได้ แม้วิปต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่า “ในวิกฤตก็ต้องมีโอกาส”

วิสุทธิ์ปฏิเสธการประเมินงานสภาที่ต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่ายังไม่คาดการณ์ถึงขนาดนั้น ขอทำหน้าที่ตอนนี้ให้ดีก่อน แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะมีแนวทางการแก้ไข แก้เกมได้อยู่แล้ว เพราะหากทำให้งบประมาณปี’69 ล่าช้าจะทำให้มีปัญหา ฉะนั้นต้องนึกถึงประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก

เอ็นฯคอมเพล็กซ์ ไพ่ตายทำ กัมพูชา หวาดหวั่น

โครงการเรือธงรัฐบาลอย่าง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ หลังจากเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทิศทางจะเป็นอย่างไร ประธานวิปรัฐบาลมองว่า เรื่องร้อน ๆ สามารถเลื่อนไปก่อนได้ เนื่องจากรัฐบาลยังต้องแก้ปัญหาทั้งเรื่องชายแดนกัมพูชา และปัญหาอื่น ๆ อาจจะต้องนำกฎหมายฉบับอื่น เช่น กฎหมายอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) หรือกฎหมายนิรโทษกรรม ขึ้นมาบรรจุวาระแทน

แต่มองว่าโครงการนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านมีกาสิโนกันหมด ประเทศไทยอาจจะมีสักแห่งและทำให้ถูกกฎหมาย หากเรามีเรื่องนี้จะทำให้กัมพูชาหวาดหวั่น เพราะไทยจะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจหลักของกัมพูชา

ส่วนควรทำประชามติหรือไม่ หากถึงเวลาประชาชนมองควรดำเนินการก็ต้องทำ แต่เชื่อว่าหากรัฐบาลอธิบายดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน 3,000 ล้านบาทในการทำแต่ละครั้ง สามารถนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมาก แต่เชื่อมั่นว่าการเดินเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จากนี้ทิศทางจะดีขึ้น

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธานวิปรัฐบาลบอกว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ตีความเรื่องอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขมาตรา 256 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องไป แต่เชื่อว่าจะมีความชัดเจนหลังศาล รธน. ตอบกลับ

“เราก็มีหวัง เพราะปัญหาบางอย่างต้องแก้ไขเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง”

3 เดือนผลงานรัฐบาลชัดเจน หลังได้คุม มท.

นับถอยหลังครึ่งเทอมรัฐบาลเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลขอว่า ควรให้โอกาส ครม.ชุดใหม่ ทำงานให้อย่างเต็มที่เสียก่อน ส่วนตัวมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคัดสรรรัฐบาลชุดใหม่มาแล้ว จะทำงานแก้ไขปัญหาประชาชนได้ดีกว่าเดิม ฉะนั้นเมื่อเหลือเวลาไม่ถึง 2 ปี ต้องทำให้ความเชื่อมั่น ความศรัทธากลับมา

ส่วนศึกภายนอก เชื่อว่าทหารจะไม่ถอยให้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว และเมื่อมีการบูรณาการกันจะทำให้ประเทศชาติอยู่ได้ เพราะส่วนตัวมองว่ากัมพูชาไม่ใช่คู่ต่อสู้เรา เนี่ยทำให้มองว่า เวลาทหารเขาจะซื้ออาวุธ คุณอย่าไปด่าเขามากนัก วันนี้ก็เห็นว่าทหารมีไว้ทำไม ถึงเวลาก็ต้องพึ่งเขา

เมื่อถูกถามว่า 2 ปีที่ผ่านมา นโยบายหลายเรื่องรัฐบาลเพื่อไทยไม่ชัดเจนจะทำอย่างไร วิสุทธิ์อธิบายว่า ที่ไม่ชัดเจนเพราะในอดีตบางพรรคไม่เห็นด้วยมันจึงไปไม่ได้ แต่วันนี้ทุกอย่างทางโล่งสะดวกแล้ว ฉะนั้นดีแล้วต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเดิน ทำให้เราทำงานง่ายขึ้น เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นเครื่องจักรสำคัญในการนำนโยบายสู่ประชาชนเพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น

ประธานวิปรัฐบาลมั่นใจว่า การทำงานรัฐบาลจากนี้จะชัดเจน อาทิ การปราบยาเสพติด ที่ผ่านมาดำเนินการไม่เต็บสูบ รวมถึงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งต้องให้ผู้นำท้องถิ่นเข้ามาร่วม เพราะหัวใจสำคัญการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลหลายเรื่องกระทรวงมหาดไทย คือหัวใจสำคัญที่ต้องใช้ฝ่ายปกครองขับเคลื่อน

ผมเชื่อว่าครั้งนี้นายกฯ ตัดสินใจถูกแล้ว มั่นใจว่าครั้งนี้อะไรก็จะดีขึ้นภายใน 3 เดือน ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง

ในช่วงท้าย ประธานวิปรัฐบาลมั่นใจว่า สถานการณ์รัฐบาลแพทองธารยังคงแข็งแรง เห็นได้จากการมีวิกฤตทำให้ทุกคนกลับมาทุ่มเททำงานกันจริงมากขึ้น ไม่ขาสั่นแล้ว

ส่วนยาดีที่จะทำให้ผ่านไปได้คือการทุ่มเททำงานกันเต็มที่ นำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ไปสู่ประชาชน แก้ปัญหาความยากจนให้สำเร็จ

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล