ไทยยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ‘กัมพูชา’ ขีดเส้นเห็นผลใน 3 เดือน

ไทยยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ 'กัมพูชา' ขีดเส้นเห็นผลใน 3 เดือน

นายกฯ ประกาศยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ฝั่ง กัมพูชา คุมเข้มจุดผ่านแดน 7 จังหวัด-สกัดบินไปเล่นพนัน-ระงับเน็ตที่ส่งให้ฝ่ายความมั่นคงรัฐบาลกัมพูชา ตั้ง KPI ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมใน 3 เดือน เมิน “ฮุน มาเนต” สั่งระงับนำเข้าน้ำมัน-ก๊าซไทย มองจะทำให้ราคาแพงขึ้น ปัญหาตกที่ ปชช.เอง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กระทรวงดีอี กระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติว่า วันนี้เป็นการประชุมทุกภาคส่วน โดยมีการประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กระทบกับประชาชน และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ อาทิ สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก

ทั้งนี้ จากข้อมูล UN พบว่า กัมพูชาถือเป็นศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลก และเป็นภัยความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท โดย UN ยังมีข้อมูลอีกว่า จีดีพีของกัมพูชา 40-60 เปอร์เซ็นต์ มาจากคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงมีเรื่องฟอกเงินที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็พยายามรักษาความปลอดภัยของประชาชนไทย

โดยหน่วยงานความมั่นคงของไทยทุกหน่วย กระทรวงดีอี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ จะเร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดน โดยจะกำหนดมาตรการ ดังนี้

เรื่องความมั่นคง : จะเพิ่มการควบคุมการเข้าออกจุดผ่านแดน รวมถึงการจำกัดเวลาเปิดปิดชายแดน 7 จังหวัด โดยจะห้ามรถยนต์และบุคคลภายนอก แต่เราจะให้กรณีมีเหตุจำเป็น เช่น นักเรียน นักศึกษาที่ต้องข้ามมาเรียน หรือผู้ป่วยที่ต้องเข้ามาใช้โรงพยาบาล และการข้ามมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น

รวมถึงห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินที่จะไปเสียมราฐ เพื่อไปเล่นการพนันด้วย

ส่วนการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงดีอีจะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้าและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด รวมถึงการระงับอินเทอร์เน็ต และประตูอินเทอร์เน็ตใต้น้ำ ที่ไปยังหน่วยงานทางทหารและความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด

ADVERTISMENT

นอกจากนี้จะร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการสร้างมาตรฐานคว่ำบาตรผู้ที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องการกู้เงิน โดยจะยึดหรืออายัดทรัพย์ที่โยกย้ายไปทางต่างประเทศ

ส่วนการส่งออกไฟฟ้าและน้ำมัน และสินค้าผ่านชายแดน เราจะระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปกัมพูชา ที่จะนำไปใช้ในกิจการผิดกฎหมายต่าง ๆ

ด้านการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากชายแดน โดยขอความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในการช่วยซื้อสินค้า

ขณะที่การประสานความร่วมมือกับนานาชาติ กระทรวงต่างประเทศ จะประสานกับประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางการปฎิบัติร่วมในภูมิภาค โดยจะมีการกำหนดเคพีไออย่างชัดเจนภายใน 3 เดือนนี้ การแจ้งความของคนไทย การยึดทรัพย์และการดำเนินคดีจะต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

โดยรัฐบาลขอย้ำว่า ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เห็นได้จากมาตรการตัดน้ำตัดไฟที่เมียนมา ทำให้ตัวเลขคอลเซ็นเตอร์เสียหายกว่า 3 หมื่นล้าน และย้ายถิ่นฐานไปกัมพูชา ฉะนั้นเราต้องมีมาตรการเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะทุกวันนี้คนไทยเสียหายเหลือวันละ 80 ล้าน

เมื่อถามว่า ธุรกิจไทยในกัมพูชาควรปฏิบัติตัวอย่างไร นายกฯระบุว่า ธุรกิจคนไทยที่อยู่ในกัมพูชา เราสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว และไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้น

ส่วนที่กัมพูชาประกาศไม่รับน้ำมันไทยก็เป็นเรื่องตรงชายแดน แต่ถ้าเกิดลุกลามมากขึ้น ผู้นำกัมพูชาต้องเป็นคนกำหนดราคาน้ำมัน ซึ่งหากไม่รับของไทย ก็คงจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น และไม่แน่ใจว่ากัมพูชาจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตกอยู่กับประชาชนกัมพูชา

เมื่อถามว่า มีการสำรวจธุรกิจคนไทยในกัมพูชาหรือไม่ นายกฯระบุว่า มีการสำรวจหมดอยู่แล้ว แต่ที่แจ้งมาในฐานข้อมูลธุรกิจส่วนใหญ่เป็นโรงแรม และอยู่ในตัวเมือง ส่วนตามชายแดนไม่ค่อยมี แต่ผลกระทบต่อคนไทยที่อยู่ฝั่งเราคือเรื่องเกษตรกรและ SMEs ต่าง ๆ ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนก็พร้อมสนับสนุน

ส่วองเพิ่มนจะต้กำลังชายแดนหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรามีการมอบอำนาจทหารในการควบคุมชายแดนเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นขอให้พิจารณาจากหน้างานเลย