ผบ.ทบ.ไม่ห่วง คนให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” บอกมาเยอะแต่เรียบร้อย ดีกว่ามาน้อยแต่วุ่นวาย

“บิ๊กเจี๊ยบ” เตรียมเรียกหน่วยความมั่นคงถกสัปดาห์หน้า เตรียมรับมือมวลชนให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” 25 ส.ค.

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ความสงบเรียบร้อยช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้กำชับเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงการประเมินสถานการณ์ที่จะมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 สิงหาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำตัดสินในคดีโครงการรับจำนำข้าว ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์หน้าตนจะเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ดูแลด้านความปลอดภัยเข้าประชุมเพื่อกำหนดแนวทาง คิดว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเป็นหลักเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ตนมองว่าไม่น่าห่วงใยอะไรมากนัก

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการนำมวลชนขึ้นรถตู้มาให้กำลังใจนั้น ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ก็มีการตรวจสอบ สิ่งใดที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ต้องตรวจสอบ และติดตามเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เราบอกแล้วว่าถ้ามาโดยที่มีเจตนาบริสุทธิ์ใจเพื่อให้กำลังใจด้วยตนเองก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีกระบวนการยุยงปลุกปั่นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ และไม่สมควร ขณะที่งานด้านการข่าวก็มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งตนคิดว่าไม่มีอะไรมาก หากคนมามากแล้วเรียบร้อย ดีกว่าคนมาน้อยแต่วุ่นวาย เจ้าหน้าที่ก็มีหน้าที่จัดระเบียบ

ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังกล่าวถึงถึงกรณีที่มีภาพปรากฏทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับชายสวมเสื้อสีแดงเสียชีวิตที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และคาดการณ์ว่าจะเป็นนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดง ว่า ตอนนี้ตนยังไม่เห็นภาพ จึงไม่กล้าวิจารณ์ว่าใช่หรือไม่ใช่ อีกทั้งเหตุไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยก็จะเป็นเรื่องที่ยากในการยืนยัน แต่อย่างไรก็ตามภาพเหล่านี้สามารถตัดต่อ ตกแต่งและดึงมาจากที่ไหนก็ได้ ตนไม่อยากให้เป็นประเด็น เพราะไม่ทราบจริงๆ ส่วนทางผู้ช่วยทูตทหารประจำประเทศลาวก็ได้ติดตามงานข่าวอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ได้รับทราบตามข้อมูลข่าวเท่านั้น

เมื่อถามต่อว่า การที่มีข่าวแบบนี้ออกมาต้องการหวังผลอะไร พล.อ.เฉลิมชัย ตนไม่ทราบ เพราะเชื่อว่าไม่มีผลอะไร

 

ที่มา : มติชนออนไลน์