“มาร์ค” ชี้คดี”ยิ่งลักษณ์”ทุจริตไม่ใช่คดีการเมือง แนะส่งข้อมูลย้ำอังกฤษใช้ตัดสินส่งตัวกลับไทย

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยื่นเรื่องถึงกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ เพื่อขอให้ส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่รู้สึกแปลกใจต่อการที่เรื่องแบบนี้ปรากฏเป็นข่าวออกมา เพราะในฝั่งอังกฤษเห็นว่าจะไม่ให้ข่าวในเรื่องพวกนี้ เนื่องจากจะเป็นการประสานงานกันเพื่อทำงานกันภายใน ส่วนข่าวที่ว่าใช้สนธิสัญญาระหว่างสหราชอาณาจักรกับสยาม ปี 1911 นั้น เห็นการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่าเป็นการประสานงานกันระหว่างรัฐบาลของ 2 ประเทศ โดยเริ่มต้นเรื่องจากตำรวจกับอัยการ แต่เหมือนกับต้องการประสานงานคำยืนยันบางอย่างจากในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะหมายความว่าต้องอ้างอิงถึงสนธิสัญญานี้และขอบเขตของความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ทั้งหมดนี้ควรเป็นการประสานงานภายใน ทั้งนี้ ในอดีตเคยมีกรณีลักษณะนี้ที่ต้องไปว่ากันเป็นคดีในศาลที่อังกฤษ อาทิ กรณีของนายปิ่น จักกะพาก ซึ่งศาลอังกฤษมีคำพิพากษาว่าไม่ส่งตัวให้ไทย ทั้งนี้มีหลักเกณฑ์อยู่ว่าถ้าเป็นคดีการเมือง ตามหลักสากลเขาก็ไม่ส่งตัวให้ แต่กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันได้ว่าเป็นคดีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้เป็นเรื่องของการเมือง

“แต่เงื่อนไขที่ว่าไม่เป็นคดีการเมืองนั้นยังไม่พอ ต้องไปดูว่าการกระทำความผิดแบบนี้เป็นความผิดที่เทียบเคียงได้หรือไม่ ถึงจะเข้าข่ายในการที่จะส่งตัวให้ไทย ตอนนี้เป็นเรื่องของกระบวนการของฝ่ายอังกฤษ ทุกอย่างเป็นหลักสากล คือเป็นไปตามสนธิสัญญา และในการปฏิบัติตามสนธิสัญญาต้องมีเงื่อนไขกระบวนการของแต่ละประเทศ ไม่ต่างกับเวลาที่เขาขอตัวคนจากเรากลับไป กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรอทางการอังกฤษพิจารณาตัดสินใจ ขณะเดียวกันเป็นหน้าที่หน่วยงานของไทยที่ต้องให้ข้อมูลเขาให้ชัดเจนมากที่สุดว่าเหตุผลในการขอตัวนั้นมันคืออะไร ต้องแสดงให้เขาเห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่จะยกเว้นจากการที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนมา ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้นอยู่ที่กระบวนการของเขา” นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์