นวัตกรรม วินัย ส.ส. “รปช.” ทุจริต-ขับออกจากพรรค

1 ในนวัตกรรมทางการเมือง-พรรคการเมืองที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ภูมิใจนำเสนอทุกวาระ คือ คณะกรรมการจริยธรรมและวินัย ซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมสมัชชาพรรค จำนวน 5 คน มีประธานและรองประธานโดยการเลือกกันเองอย่างละ 1 คน และคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยเลือกสมาชิกให้เป็นเลขานุการ-ผู้ช่วยเลขานุการอย่างละ 1 คน

ร่างข้อบังคับพรรค ข้อ 16 ระบุที่มา-ที่ไปของ 5 อรหันต์ว่า ต้องเป็นสมาชิกพรรคมีอายุไม่น้อยกว่า 40 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้มีเกียรติคุณ มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณธรรมเป็นที่ประจักษ์

“ในกรณีที่สภาผู้จัดตั้งพรรคหรือคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้เสนอชื่อไม่ต้องมีผู้รับรอง แต่ในกรณีสมาชิกพรรคเป็นผู้เสนอจะต้องมีสมาชิกพรรครับรองไม่น้อยกว่า 3,000 คน”

มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และอาจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งได้หลายวาระ

องค์ประชุมของคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ คำวินิจฉัยหรือคำสั่งของคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

และอย่างน้อยจะต้องแสดงเหตุผลประกอบคำวินิจฉัย ความเป็นมาของคำกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ การสรุปข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการพิจารณา ตลอดจนบทบัญญัติของกฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 18 มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับควบคุมดูแลให้คณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคและสมาชิกพรรค ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบข้อกำหนดทางจริยธรรมและวินัยตามความในหมวดที่ 7 โดยมีอำนาจทำการสอบสวนหรือไต่สวน

หมวด 7 ข้อกำหนดทางจริยธรรมและวินัยในส่วนที่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรคและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพรรคจะ “เข้มข้น” กว่าสมาชิกพรรค อาทิ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตัวเองหรือผู้อื่น ไม่แทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายหรือพิจารณาความดีความชอบ

ไม่ให้บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลที่อยู่ในกำกับดูแลเรียก รับ หรือยอมจะรับประโยชน์โดยมิชอบ ไม่คบหาสมาคมกับผู้กระทำการทุจริต

ในกรณีมีมติว่าเป็นความผิดไม่ร้ายแรง ให้ลงโทษโดยการว่ากล่าวตักเตือน ให้ขอโทษต่อที่ประชุมหรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์

ในกรณีมีมติว่าเป็นความผิดร้ายแรง ให้ลงโทษโดยการถอดถอนออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค และหรือสมาชิกภาพของพรรค

นอกจากนี้อาจมีมติแจ้งให้คณะกรรมการบริหารพรรคออกคำแถลงขอโทษต่อสาธารณชนในนามพรรคด้วยก็ได้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยถือเป็นที่สุด