
แม้ว่ายังไม่รู้ว่าลูกผีลูกคนสำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 36 คน ชงเรื่องแก้ไขในสภากันอีกรอบ
หลัง 616 รายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้ง เผยโฉมออกมาโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งชุด “ศุภชัย สมเจริญ” นั่งเป็นประธาน เป็นผู้คัดเลือก กลับไม่ถูกตาต้องใจร่างทรง คสช.ในคราบนิติบัญญัติ
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- เปิดชื่อ 100 ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ภูมิใจไทย ว่าที่ลูกสะใภ้อนุทิน อันดับเซฟโซน
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.5 ล้านคน ได้สิทธิลอตแรก รับเงินกี่บาท เช็กที่นี่
แต่สำหรับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ 21 อรหันต์ กรธ.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานปั้นรัฐธรรมนูญ วางกฎกติกาการเมืองแสนเขี้ยว รัดกุมนักเลือกตั้งในอนาคตไม่ให้ “แหกคอก” ออกนอกลู่ นอกกติกา
ให้มีใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม แก่ กกต.ไว้ใช้จับทุจริตเลือกตั้ง-ขีดเส้นการบริหารราชการแผ่นดิน ห้ามใช้นโยบายประชานิยม
พร้อมกับทำคลอดกฎหมายลูก 10 ฉบับ แบ่งเป็นกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ที่กำลังตะลุมบอน “ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” กันอยู่ใน สนช. ส่วนอีก 6 ฉบับที่เหลือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรอิสระ-องค์กรตามรัฐธรรมนูญ
กรธ.กำลังจะจบภารกิจ เก็บข้าวของแยกย้ายกลับบ้าน
วาระการพิจารณาของ กรธ.ปัจจุบันนี้เหลือเพียงวาระทบทวนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ทีละมาตรา เผื่อถึงคราวทางตันทางการเมืองจะได้หยิบฉวยมาแจงกับสังคม
นาทีนี้ กรธ. 21 คนงานไม่ชุก ไม่มีวาระร้อนการเมืองใด ๆ อีก มีเพียงการประชุมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
แต่คนที่ยังชุกมือเป็นระวิง คือ หัวขบวน “มีชัย” เพราะนอกจากนั่งคุมวางกรอบกติกาการเลือกตั้งระดับชาติ ทั้งในรัฐธรรมนูญลงไปถึงการออกกฎหมายลูก ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กฎหมาย กกต. และกฎหมายพรรคการเมือง
วันไหนที่ไม่มีประชุม กรธ. หรือหลังจากจบประชุม กรธ.ที่อาคารรัฐสภา “มีชัย” ยังข้ามฟากไปประชุมที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) นั่งหัวโต๊ะพิจารณากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 6 ฉบับ
ประกอบด้วย 1.พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 2.พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 (อบต.) 3.พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 (อบจ.) 4.พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 5.พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม. พ.ศ. 2528 และ 6.พ.ร.บ.บริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542
ซึ่งที่ประชุมพิจารณาปรับแก้เสร็จแล้ว 5 ฉบับจาก 6 ฉบับ เหลือเพียงฉบับเดียวที่ยังค้างอยู่ คือ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.ที่ล่าช้า แต่ทั้ง 5 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งในระดับภูมิภาค จะมีการชงเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อตรงกับ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯกล่าวผ่านสื่อ “มีชัย” จึงต้องเร่งมือ-คุมงานทุกกระบวนการ
“สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ร่วมประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาเล่าบรรยากาศว่า “ท่านมีชัยแกเก่งจริง ๆ แกนั่งหัวโต๊ะ นั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์เอง เป็นเสมียนเองด้วย พิมพ์เร็ว ทั้งคิด ทั้งร่าง ทั้งพิมพ์ ส่วนคนที่มาให้ความเห็นก็คอยติชม คนในห้องประชุมยังจดไม่ทันว่าท่านพิมพ์อะไร”
ยังไม่นับกฎหมายอื่น ๆ ที่มือกฎหมายระดับ “พญาครุฑ” นั่งร่างเองกับมือเช่นกัน ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ
“มีชัย” เคยพูดถึงภาระร่างรัฐธรรมนูญที่แบกไว้บนบ่าตั้งแต่ปี 2558 ไว้ว่า หลังจากกฎหมายลูก 10 ฉบับผ่านการเห็นชอบจาก สนช.ทั้งหมด เขาจะวางปากกา ปิดฉากภารกิจการเป็น กรธ.
“เพราะโดยสภาพร่างกายทำไม่ได้ จะเกิดอะไรขึ้นก็พ้นวัยของเราที่จะทำ โชคดีที่ร่างกายไม่ล้มกลางคัน มันแสนเข็ญนะ ใช้พลังงานมากที่สุดในชีวิต เพราะไม่ได้ทำที่รัฐสภาอย่างเดียว ต้องไปทำที่คณะกรรมการกฤษฎีกา กฎหมายก็เร่งกันทั้งนั้น วันหนึ่งประชุม 3 รอบ 4 รอบ เลิกจากประชุม กรธ. 2 ทุ่มยังประชุมต่อ เป็นช่วงที่ประเดประดัง เราเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่จะออกตามรัฐธรรมนูญก็ส่งให้เราทำ”
“ผมเป็นคนโชคดี ลืมมันได้ พอออกมาจากห้อง อย่ามาถามว่าเมื่อกี้ประชุมเรื่องอะไร ผมลืม ไปเรื่องใหม่เลย ส่วนเรื่องใหม่ไปถึงก็รู้ว่าจะทำเรื่องอะไร แต่พอออกก็ลืม แต่ตลอดเวลา 2 ปีกว่ากินยานอนหลับทุกคืน เพราะต้องการหลับลึก ไม่เช่นนั้นร่างกายเผชิญไม่ได้ เพราะคนอายุปูนนี้ตอนบ่ายต้องนอนแล้ว ผมฝึกมานานแล้วต้องนอนอย่างน้อย 15 นาที 20 นาที แต่มาทำรัฐธรรมนูญ 2 ปีไม่ได้หลับไม่ได้นอน จึงต้องหลับให้มันลึก”
เตรียมปิดฉากภารกิจ 2 ปี 11 เดือนที่เขานั่งร่างกติกาประเทศ คุมเบ็ดเสร็จเขียนทั้งกติกาเลือกตั้งใหญ่-ท้องถิ่น