กกต.ใหม่ ฟิต! ติวเข้มพนง.ชูความสามัคคี หวังจัดเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับ

วันนี้ ( 18 ส.ค.) เวลา 13.30 น. ที่โรงแรมพินนาเคิล แกรนด์ จอมเทียน ชลบุรี สำนักงานกกต. ได้จัดประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการจัดการเลือกตั้งส.ส.และส.ว. โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ตนภูมิใจดีใจที่มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อทำให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต เที่ยงธรรม และเชื่อว่ากกต.ทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และเห็นว่าการเตรียมการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ ของกกต.ชุดเก่า มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี

การมีแผนปฏิบัติการไม่เพียงแค่ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จแต่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในและนอกประเทศเข้าถึงการเลือกตั้ง มีความรู้ความเข้าใจ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสริม มั่นใจว่าทำให้การออกเสียงเลือกตั้งเป็นไปด้วยความอิสระ ปราศจากอิทธิพล ครอบงำ หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีการแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้บริหารเปิดใจกว้างรับฟังเพื่อให้การปฏิบัติงานที่จะมีขึ้นในอนาคตเป็นไปตามกฎหมาย อย่างกรณีการทำงานของผู้ตรวจการเลือกตั้ง จะมีปัญหา อุปสรรคอย่างไร การจัดซื้อ จัดจ้าง ตามระเบียบภาครัฐ เป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ขอให้มีการพูดออกมา และขอให้ทุกคนมีเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม เพื่อให้ได้รับการยอมรับทั้งภายในและนอกประเทศ

จากนั้น นายอิทธิพร กล่าวมอบนโยบายเน้นย้ำว่า การทำงานขององค์กรต้องมีความเข้มแข้งใน 4 เรื่อง 1. ต้องมีเอกภาพ ต้องมีการพัฒนาความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องทันต่อโลกต่อการพัฒนา มีแนวทางการทำงานชัดเจน ประสานงานเป็นระบบ ทำงานเป็นทีม อยากให้มีการประกวดการทำงานในเรื่องความสามัคคี และเป็นองค์กรที่ได้ที่ 1 ในเรื่องความสามัคคี ถ้าองค์กรเข้มแข็งไม่ว่ากฎหมายจะเป็นอย่างไร การจัดการเลือกตั้งของเราก็จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม เมื่อจัดเลือกตั้งดีแล้วก็จะทำให้พรรคการเมือง ซึ่งเป็นผู้เล่นมีคุณภาพ มีความหมาย ประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ อยากให้เน้นให้ความสำคัญกับเยาวชน ตั้งแต่อายุ 11-18 ปี  ในช่วง  7 ปี ที่กกต.ชุดนี้มีวาระ ทำให้กลุ่มพลังนี้มีความรู้ มีความเข้าใจ

2. คุณภาพ เราต้องรู้ซึ้งถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องตั้งเป้าการทำงานว่ามีอะไรเข้ามา ต้องทำให้เร็ว ทันเวลา และถูกต้อง การเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การทำงานดียิ่งขึ้น มีความสม่ำเสมอในการประสานงาน ต้องลงพื้นที่ไปพบพรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชนในพื้นที่เพื่อให้รู้ในเชิงภูมิศาสตร์ สำนักงานฯต้องมีเครื่องมือที่จำเป็น บางสถานการณ์จำเป็นต้องมีวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์เช่นในการเลือกตั้ง

นายอิทธิพร กล่าวว่า 3.คุณธรรม พนักงานต้องยึดมั่นการทำงานอย่างเป็นธรรม ยุติธรรม เปิดใจกว้าง และ4.คุณค่า การทำงานต้องยึดและปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ  ปราศจากอคติ ซึ่งองค์กรจะต้องกล้าหาญ ถ้าเรากล้าหาญและสุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา ขอให้ถือเป็นคุณค่าและค่านิยมขององค์กร

 

ที่มา มติชนออนไลน์