วันนี้ (22 ส.ค.) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล นักเคลื่อนไหวด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในฐานะอดีตนายกองค์การนักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ และอดีตนายกสมาคมศิษย์เก่า โพสต์ข้อความตอบกลับกรณี นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลักษณ์ ประณามศิษย์เก่าบางคนที่มีพฤติกรรมเลวร้าย ให้ร้ายสถาบันการศึกษา โดย นายประสิทธิ์ชัย ระบุว่า
ผมนั่งทบทวนว่าทำไมผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงได้ด่าว่าศิษย์เก่าว่า ‘เลว’ ทั้งที่เขียนแสดงความเห็นเรื่องการออกแบบกิจกรรมหลังการรับน้องว่า ควรหรือไม่ที่จะเอาทหารมาเกี่ยวข้อง ระบบมหาวิทยาลัยและบุคลากรไม่สามารถสร้างให้นักศึกษา มีคุณสมบัติตามที่ต้องการได้แล้วหรือ
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
คำถามแค่นี้ ถึงกับด่าว่า ‘เลว’ทำลายมหาวิทยาลัยต่อหน้าคนหลายร้อยและผ่านสื่อด้วย… มันไม่ปกติแน่นอน ภายใต้ปรากฎการณ์เช่นนี้ ย่อมมีก้อนน้ำแข็งที่เรายังไม่เห็น และมันน่าจะสะท้อนวิธีคิดบางประการในเชิงการบริหาร
และนี่คือสิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุด
การด่าว่าศิษย์เก่า ‘เลว’ นั้นมันผ่านไปแล้วแม้ว่าจะฝากรอยแผลในความรู้สึกกันอยู่บ้างแต่มันจะผ่านไป
แต่…สิ่งที่ยังอยู่และจะส่งผลกระทบคือวิธีคิดเหล่านี้จะถูกใช้ในการบริหารงานมหาวิทยาลัยอีกหลายปี วิธีคิดที่ใช้อารมณ์เกรี้ยวกราด วิธีคิดของการไม่ฟังใคร วิธีคิดที่ไม่ยอมรับความหลากหลาย…นี่เป็นคุณสมบัติของคนเก่งที่จะกลับมาทำลายตัวเอง
คนเก่งที่ไร้สตินั้นจะกลายเป็นอันตราย ในมุมมองการพัฒนาไม่มีใครมองคนเดียวได้รอบด้าน การรับฟัง การระดมความเห็น การทำวิจัยหาความรู้นำมาออกแบบงาน นี่คือความรอบคอบของกระบวนการพัฒนาและนี่คือกระบวนการสร้างคนให้ทำงานเป็น การสร้างคนไม่ใช่ให้เขาทำหน้าที่รับคำสั่งแล้วไปทำ มันสร้างคนให้โตไม่ได้หรอก
ความเก่งที่ไร้สติสร้างปัญหาเสมอ ตัวอย่างเช่นการมีนโยบายรถไฟฟ้านั้นถือเป็นความเก่งที่น่าชื่นชม แต่พลาดหลายด้านในกระบวนการออกแบบ เพราะไม่ยอมคิดอีกหลายมุม และการไม่ยอมรับฟังปัญหาที่เกิดมันกำลังก่อความเดือดร้อนและโปรดระวังว่ามันจะปะทุออกมา นี่เป็นตัวอย่างของคนเก่งที่ไม่ฟังใคร ไม่ยอมคิดให้รอบด้าน
ขนาดการบริหารของบริษัท คนเป็น CEO ยังต้องฟัง ต้องวิจัย ต้องระดมความเห็นเพื่อให้พลาดน้อยที่สุดแต่นี่เป็นมหาวิทยาลัยซึ่งควรต้องทำรูปแบบนี้มากกว่าบรรษัท เท่าที่ผมทราบกลับตรงกันข้าม คนทำงานทุกลำดับชั้นมีหน้าที่รับคำสั่ง คิดเองได้บ้างแต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบที่สั่ง ใครเถียงจะถูกว๊ากใส่…ยกเว้นคนที่เอาใจเป็นจะได้รับการเพิ่มตำแหน่ง เช่น ให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จทำบางอย่างได้ไม่ต้องมีกระบวนการ ทำก่อนรายงานทีหลัง
การว๊ากใส่คนที่คิดต่างจึงไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่มันคือวิธีการทำงาน…นี่คือสิ่งที่ผมห่วงที่สุด
มหาวิทยาลัยกำลังไปได้ดี โปรดอย่าให้วิธีการทำงานแบบนี้มาทำลายสิ่งดีดีที่จะเกิดขึ้น
คนในมหาวิทยาลัยอาจไม่มีใครกล้าพูด แต่ได้โปรดตระหนักเถอะครับ ภารกิจการสร้างมนุษย์ให้เติบโตทางสติปัญญาเป็นพลเมืองที่ดีไม่อาจสร้างได้ด้วยวิธีเผด็จการอย่างแน่นอน
หากต้องการแรงใจจากคนในมหาวิทยาลัย คุณต้องได้หัวใจเขามาก่อน เคารพเขา ฟังเขา เมื่อนั้นพลังมันจะเกิด พลังแห่งความรักมันจะสร้างสรรแต่พลังแห่งความกลัวมันจะกลับมาทำลาย
ผมหวังว่าการว๊ากใส่ศิษย์เก่าคราวนี้จะเป็นบทเรียนได้บ้าง
แม้หลายคนจะบอกกับผมว่า
‘ยาก’
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
ที่มา มติชนออนไลน์