“พรรคสุเทพ” สืบทอดแผน 20 ปี ประชัน “ธนาธร” ล้างร่างทรง คสช.

2 พรรคการเมืองใหม่พุ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรง-แซงทางพรรคเก่าอย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คงหนีไม่พ้นพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)

“อนาคตใหม่” ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรค เป็น “หัวขบวน” และ “ปิยะบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรค เป็น “หางเสือ” มาพร้อมกับอุดมการณ์พรรค “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ภายใต้คำประกาศของ “ธนาธร”

“ศักยภาพของประเทศไทยถูกกดทับด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอย่างที่เป็นอยู่มาช้านาน ถึงเวลาแล้วที่ผู้ไม่ยอมจำนนกับปัจจุบันอันล้าสมัยจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงมันด้วยกัน”

“มาร่วมกันสร้างสังคมใหม่ที่ก้าวหน้า ยุติธรรมและเท่าเทียมเพื่อที่ในอนาคตเราจะส่งต่อสังคมที่น่าอยู่กว่าปัจจุบันให้คนรุ่นต่อไป”

“อนาคตใหม่คืออนาคตที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

ภายใต้ “นโยบาย 3 ป.” ที่มีการรื้อรัฐธรรมนูญร่างใหม่ทั้งฉบับ-ล้างมรดกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

1 ป. “ปลดล็อก” กำจัดกฎหมายที่เอื้อเศรษฐกิจผูกขาดและไม่เป็นธรรม ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน ผลักดันกฎหมายรับรองป่าชุมชนและสิทธิชุมชน กำจัดกฎหมายที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก เอาทหารออกจากการเมือง รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ

2 ป. “ปรับโครงสร้าง” กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ปฏิรูปการศึกษา ผลักดันอัตราค่าจ้างเพื่อชีวิต สวัสดิการ 1 ระบบทั้งประเทศ

3 ป. “เปิดโอกาส” ธนาคารท้องถิ่น

รัฐเปิดเผยและปลอดทุจริต สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล ผลักดันให้เกิดสังคมที่ยอมรับความหลากหลาย เท่าเทียมและเป็นธรรม ลดภาระหนี้เกษตรกร

สำหรับ “ไทม์ไลน์” หรือ “โรดแมปสู่การเลือกตั้ง” กุมภาพันธ์ 2562 ของพรรค คาดว่าภายในปลายเดือนสิงหาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรองสถานะความเป็นพรรคการเมือง ต้นเดือนกันยายนเปิดการระดมทุน/รับสมัครสมาชิก/เปิดตัวเว็บไซต์ กลางเดือนกันยายน online vote เลือกตัวแทนเขต ปลายเดือนกันยายนประชุมจัดตั้งสาขา

ปลายเดือนตุลาคมเปิดรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง-ปิดรับสมัครกลางเดือนพฤศจิกายนพร้อมกับจัดงานเปิดตัวนโยบาย ต้นเดือนธันวาคมเริ่มทำไพรมารี่โหวต ทั้งนี้ ยืนอยู่บนสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยกเลิก เปลี่ยนแปลง แก้ไข รูปแบบ

ด้านพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มี “คุณชายเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นหัวหน้าพรรค โดยมี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตหัวหน้าม็อบ กปปส. เป็นผู้ก่อตั้งพรรคกิตติมศักดิ์

ที่มีอุดมการณ์พรรคชัดเจน คือ “เทิดทูนและพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างพรรคการเมืองให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง”

มาพร้อมกับ “นโยบาย 11 ด้าน” ได้แก่ ด้านการเมือง ดำเนินการพัฒนาการเมืองเพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ให้การเมืองการปกครองมีธรรมาภิบาลทุกระดับ มีประสิทธิภาพ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ดำรงเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ

ด้านกฎหมาย ตรากฎหมายด้วยความเป็นธรรมบนหลักการแห่งการเคารพประชาชน ธำรงหลักนิติธรรม ด้านกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูประบบและกระบวนการยุติธรรมให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และเสมอภาคเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปกิจการตำรวจ

ด้านการศึกษา ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ เพื่อสร้างบุคลากรมืออาชีพที่เป็นคนดี มีศีลธรรม มารับใช้ประเทศ ด้านเศรษฐกิจ นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชาเป็นหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ และเศรษฐกิจของครัวเรือนประชาชน เพื่อให้ประเทศมั่งคั่ง ประชาชนผาสุกถ้วนหน้า

ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปกป้องอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้สมบูรณ์ สมดุล ยั่งยืน ด้านสาธารณสุข ให้ความสำคัญในการป้องกันโรค และบริการดูแลรักษาอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง

ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้เทคโนโลยีทางสารสนเทศที่ทันสมัย เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อการพัฒนาประเทศ ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตประชาชน

ด้านสังคม ดำเนินการให้ประเทศมีความสงบสุข ประชาชนสามัคคี มีเสรีภาพและมีโอกาสเสมอภาคเท่าเทียม และ ด้านอื่น ๆ แก้ปัญหายาเสพติด แก้ปัญหาความไม่สงบภายในประเทศ

“ไทม์ไลน์” หลังจากนี้ เมื่อรัฐบาล-คสช.ปลดล็อกพรรคการเมือง นายสุเทพ-พลพรรคจะนำทีมคาราวานเดินเท้าหาสมาชิกพรรค-ปลุกสาวก กปปส.ให้ตื่นและมาสานต่อเจตนารมณ์ 204 วัน ชูการปฏิรูปเป็น “ธงนำ” ในคราบของพรรคการเมือง