“ภูมิธรรม” ฝ่าการเมือง Disrupt ชูธงกระจายอำนาจ ปลดล็อกรัฐทหารตกยุค

ภูมิทัศน์เศรษฐกิจและภูมิทัศน์การเมืองหลังรัฐประหาร 2557 เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือกว่า 5 ปีที่ไม่มีการเลือกตั้ง new voter-คนรุ่นใหม่ จำนวนมากที่จะมีส่วนชี้ชะตาอนาคตประเทศเป็นครั้งแรกในจังหวะที่พรรคต่าง ๆ เริ่มเผยโฉมหน้านักเลือกตั้งหน้าใหม่ลงสู่สนาม ชูนโยบายใหม่ แคมเปญใหม่ ขณะที่ฝั่งผู้มีอำนาจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินเกมชิงมวลชนพื้นที่อย่างเข้มข้น 

ประชาชาติธุรกิจสนทนากับ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่ศัตรูการเมืองหน้าเก่า-หน้าใหม่เกิดขึ้นรอบด้าน การเปลี่ยนแปลงของโลกแบบ 180 องศา เพื่อไทยทำอย่างไรไม่ให้ถูก disrupt

Q : การเลือกตั้งในปี 2562 อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดของเพื่อไทย 

ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งใหม่ และยังมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สำหรับพรรคการเมืองมีความยากลำบากพอสมควร ต้องอิงตามกฎหมาย ไม่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม

แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ปัญหาของประชาชน ดูจากผลโพลของทุกสำนักจะเห็นว่า คนรู้สึกอยากเลือกตั้ง อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แม้ว่ารัฐบาลจะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจดี แต่ชีวิตเขาได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจฝืดเคือง

การใช้นโยบายไทยนิยม โครงการประชารัฐ ทรัพยากรที่ลงสู่ชาวบ้านถูกดูดขึ้นไปข้างบน ไม่ได้ถูกกระจาย และทำให้เกิดการเคลื่อนตัว ทั้งหมดเป็นข้อจำกัดการพัฒนาของประเทศ

พรรคการเมืองทุกพรรคต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้บรรยากาศเศรษฐกิจโดยรวมสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตขึ้น มีการเหวี่ยงของเงินทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระดับฐานราก

Q : นโยบายของเพื่อไทย เช่น รถยนต์คันแรก จำนำข้าว ต่อไปจะไม่สามารถใช้ได้อีกภายใต้กติกาใหม่

เวลานี้พูดยากว่าอะไรที่เคยทำมาแล้วทำไม่ได้ เพราะในขณะที่เกิดวิกฤตทางการเมือง มีการโจมตีนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นประชานิยม เป็นนโยบายที่สร้างปัญหา แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลก็หยิบเอาบางอย่างปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่ แต่เนื้อหา ปรัชญายังเหมือนเดิม

ดังนั้นนโยบายบางอย่างเราต้องมาทบทวน บางอย่างที่มีข้อวิจารณ์ก็คงต้องกลับมาดูว่าเป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่

ถ้ามีจุดโหว่อยู่ที่ตรงไหนจะต้องมาปรับปรุงแก้ไข เชื่อว่านโยบายเดิม ๆ ของพรรคเพื่อไทยที่ประสบความสำเร็จจะต้องกลับมาทบทวน

Q : เสียงวิจารณ์ของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ สะท้อนว่า เพื่อไทยหายไป ไม่มีการเสนอนโยบายสู้กับเผด็จการ

เป็นสิ่งที่อาจารย์นิธิเสนอได้ แต่ในบรรยากาศที่ คสช.ยังไม่ให้พรรคเพื่อไทยทำอะไรได้ และยังไม่รู้ว่าอนาคตของการเลือกตั้งอยู่ตรงไหน เวลานี้อาจยังไม่ใช่เวลาที่เรานำเสนอนโยบาย แต่ความเห็นของอาจารย์นิธิพรรคเพื่อไทยต้องตอบว่า นโยบายของพรรคคืออะไร เมื่อมีความพร้อมในช่วงเวลา

Q : อาจารย์นิธิตั้งคำถามว่า แม้เพื่อไทยอ้างเรื่องติดล็อก แต่ถ้าไม่มีทางสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่ามีนโยบายอะไร จะยังเป็นพรรคการเมืองอยู่หรือ

ขณะนี้เราไม่ได้บอกว่า เรายอมรับการติดล็อกที่ คสช.กำหนด และไม่ทำอะไรเลย เราแสดงออกในทุกมิติที่สามารถแสดงออกได้ ป้องกันไม่ให้เราถูกกระทำเหมือนที่เราเคยถูกกระทำมาโดยตลอด ถามว่า เรายอมรับไหมกับสิ่งที่เป็นอยู่…เราไม่ยอมรับ แต่มันเป็นกฎหมายที่มีสภาพบังคับ ก็ต้องสู้ไปตามกฎหมาย ในทางการเมือง เราไม่สามารถจัดสัมมนาได้ เราก็จะจัดวิธีการพูดคุย การรับฟังความเห็นต่าง ๆ เพียงแต่ว่าวันนี้อาจารย์นิธิอาจยังไม่มีโอกาส ถ้าอาจารย์นิธิมานั่งคุยกับผมอาจเสนออะไรให้อาจารย์นิธิฟังได้เหมือนกัน

Q : ภูมิทัศน์โลกการเมืองหลังรัฐประหารเปลี่ยนไปขนาดไหน 

โลกเปลี่ยนแปลงมาก ไม่ว่ากลไกทางธุรกิจ ระบบธุรกิจ การเจริญเติบโตทางธุรกิจ วันนี้ทุกอย่างเป็นดิจิทัลหมด เน้นการกระจายอำนาจ เน้นเครือข่ายต่าง ๆ เชื่อมโยงกัน มองเห็นกันได้ในเวลาทันทีทันใด ถ้ารัฐบาลไม่ได้เข้าใจสภาพนี้ ยังพยายามรวมทุกอย่างเข้ามาสู่ส่วนกลางให้รัฐราชการที่ใหญ่โตและเทอะทะทำหน้าที่เป็นความผิดพลาดจะทำให้ไม่ทันโลก

Q : ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร

ต้องทำความเข้าใจกับความเป็นจริงของโลกที่เกิดขึ้น ต้องทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของเขา ไม่ต้องแปลกใจว่าคนรุ่นใหม่เรียกร้องอนาคตของเขาโดยไม่อยากให้คนรุ่นเดิม ๆ จำนวนมากมากำหนดชีวิตของพวกเขา จึงต้องเน้นการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมให้มากที่สุด โลกปัจจุบันไม่ใช่โลกโบราณ โลกปัจจุบันคนเขารู้มากกว่าว่าอะไรเหมาะสมที่จะไปได้หรือไปไม่ได้ ถ้าคนสังคมส่วนใหญ่อยากเห็น ไม่ว่านายทหารคนไหน นักการเมืองคนใด ก็ไม่อาจขัดขวางได้ เพราะเป็นความต้องการของประชาชน

Q : ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว สิ่งที่การเมืองไทยถูก disrupt คืออะไร 

คือการเมืองที่เน้นการรวมศูนย์อำนาจ ซึ่งพยายามเกิดรัฐราชการที่แข็งแรง ขยายบทบาทราชการมากมาย สร้างให้เกิดปัญหาไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็จะทำให้เกิด disrupt

วันนี้เราบอกว่า 4.0 ขณะเดียวกันกติกาที่จะต้องปฏิบัติตามเป็น 0.4 หมด และไม่ใช่รัฐที่เอาความคิดเรื่องความมั่นคงเป็นหลักและพยายามคอยควบคุมดูแล กำหนดทางเดินให้คนเดิน มันปิดกั้น

การพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่

Q : พรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา อนาคตใหม่ เข็นคนรุ่นใหม่มาเปิดตัว พรรคเพื่อไทยยังมีแต่คนหน้าเดิม ๆ 

ต้องเข้าใจ 2 ประการ 1.บรรยากาศการเมืองปัจจุบันยังไม่ใช่เรื่องปกติ ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากมายอย่างที่ควรจะเป็น 2.ไม่ใช่เวทีประกวดแฟชั่น ที่ต้องไปหาคนหน้าใหม่ หน้าเด็ก หน้าสวย ๆ มาแสดง เวลานี้เป็นเวทีการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศที่ต้องการคนทุกส่วนทุกฝ่าย สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมีอยู่แล้วคือผู้มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ เป็น value ของพรรค ต้องรวมคนทุกกลุ่มให้มากที่สุด คนเก่าแก่ มีความเชี่ยวชาญในทุกวิชาชีพ กับคนรุ่นใหม่ที่มีความทะยาน ไม่ต้องกังวล วันไหนที่มีการเปิดให้ทำกิจกรรมทางการเมือง จะเปิดตัวคนรุ่นใหม่ ๆ ทั้งแผง

Q : การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ที่มีจุดยืนคล้ายกับเพื่อไทย คิดว่าเป็นคู่แข่ง หรือพันธมิตรการเมือง 

การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นการเลือกตั้งที่จะสู้กันระหว่างการทำให้สังคมออกจากวิกฤตในด้านชีวิตและสังคม และเป็นการต่อสู้ระหว่างวิกฤตของฝ่ายที่ทำให้สังคมไทยเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย คิดว่าพลังทุกส่วนที่ไม่เอาการสืบทอดอำนาจแบบที่ผู้มีอำนาจปัจจุบันดำเนินการอยู่ ไม่เอาเผด็จการ และเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะเป็นแนวร่วมที่จับมือกันไม่ได้มองว่าจะมาตัดแต้มกัน ใครก็ตามที่ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ และเอาความเป็นประชาธิปไตยก็จะอยู่ในแทร็กเดียวกัน และให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน

Q : กังวลชื่อพรรคพลังประชารัฐแค่ไหน

ในสายตาผมไม่มีความหมาย ผมยังไม่เห็นเลยว่าหน่อเนื้อจริง ๆ อยู่ตรงไหน มีแต่อีแอบที่คอยพูดนั่นพูดนี่ อะไรที่เป็นไอ้โม่งหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ แล้วจะไปให้ความหวังว่าเป็นพรรคอันดับ 1 เป็นเรื่องไร้สาระเกินไป ไม่สามารถฝากความหวังกับอะไรที่วับ ๆ แวม ๆ มองไม่เห็น ถ้าคิดว่าตัวเองกล้าเป็นความหวังก็เปิดเผยมาเลยว่าตกลงพรรคพลังประชารัฐว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าพรรค เอาให้ชัดเจนว่ามีความหวังได้จริงหรือไม่จริง ถ้าเปิดตัวก็จะสะท้อนให้เห็นว่าคนคิดอย่างไร แต่วันนี้ผมยังไม่เห็นใครนอกจากคุณชวน ชูจันทร์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค

Q : อ่านท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ผูกโยงกับชื่อพลังประชารัฐอย่างไร

การเมืองที่สำคัญสำหรับประชาชนต้องสง่างาม กล้าเปิดเผยตัวชัดเจนว่ามีความคิด มีทิศทางที่เป็นทางออกของประเทศอย่างไร สิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่ตัวเองทำยังไม่กล้าเปิด ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำมาดีแล้วทำไมไม่กล้าเปิดเผยตัว ถ้ายังไม่กล้าจะฝากความหวังได้อย่างไร

Q : เพื่อไทยก็ยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน

ก็กฎหมายห้ามอยู่ ถ้าพรุ่งนี้เปิดให้ทำกิจกรรมทางการเมือง ภายใน 7 วัน ผมสามารถหาหัวหน้าพรรคได้ทันที โดยสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจได้

Q : จำเป็นหรือไม่ที่ผู้นำพรรคเพื่อไทยต้องเกี่ยวกับนามสกุลชินวัตร

กระบวนการคัดเลือกคนของพรรคการเมือง สมาชิกพรรคทุกคนเป็นคนกำหนด สมาชิกพรรคต้องมองทิศทางว่าอะไรคือชัยชนะและอนาคตของเขา เขาก็จะเลือก ไม่ได้สนใจต้องเป็นตระกูลนั้น ตระกูลนี้

Q : คุณทักษิณยังพูดถึงพรรคเพื่อไทย 

คุณทักษิณก็เหมือนกับคนทั่วๆ ไปที่เชื่อว่าพรรคนั้นพรรคนี้จะชนะ เป็นเรื่องทั่วไปของมนุษย์ที่แสดงความเห็นได้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเพื่อไทย

Q : สะท้อนว่าคุณทักษิณยังจำเป็นสำหรับพรรคเพื่อไทย

คุณทักษิณไม่ได้อยู่เมืองไทย เขาเป็นบุคคลของโลกไปแล้ว สามารถเสนอไอเดียออกจากวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งคนในโลกเอาไปปฏิบัติ เรายังไปติดกรอบเดิม ๆ โดยไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก้าวไม่ทันโลก

Q : รัฐธรรมนูญที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาครอบงำ ชื่อของคุณทักษิณก็เป็นอันตรายกับเพื่อไทย

ชื่อของบุคคลภายนอกเป็นอันตรายทุกคนตามข้อกฎหมาย ใครก็ตามที่เป็นบุคคลภายนอก ไม่เกี่ยวกับพรรค แล้วมาครอบงำพรรคล้วนแต่เป็นบุคคลอันตรายที่มีปัญหาต่อพรรคการเมืองทั้งสิ้น กฎหมายไม่ได้บอกว่า ห้ามคุณทักษิณ