“อลงกรณ์” ยืนยันไม่ใช่นอมินี คสช. ฝาก “อภิสิทธิ์” ดูแลลูกพรรคอย่ากีดกันคนอื่น

“อลงกรณ์” ยืนยันไม่ใช่นอมินี คสช. เตือนวัชระเลิกเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ฝาก ”อภิสิทธิ์” ดูแลลูกพรรคอย่ากีดกันคนอื่นที่จะลงสมัครชิงหัวหน้าพรรค

วันนี้ (10 ก.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวให้สัมภาษณ์กรณีนายวัชระ เพชรทอง กล่าวพาดพิงว่า คสช.ส่งคนมาชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อไปเป็นพรรคในสังกัด คสช.ว่า ถ้าคุณวัชระหมายถึงตนก็ต้องยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มี คสช.หรือทหารคนไหนมาเกี่ยวข้อง มีแต่คนภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่ทาบทามชักชวนตนและก็ยังไม่ได้ตัดสินใจแต่อย่างใด ส่วนที่บอกว่าต้องลาออกจากพรรคแล้วด่าพรรคเอาใจคสช.เพื่อไปเอาตำแหน่งจาก คสช.นั้น คุณวัชระคงลืมไปว่า ผมเสนอให้มีการปฏิรูปพรรคปชป.เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2556 ตอนผมเป็นรองหัวหน้าพรรคก็นำเสนอแนวทางการปฏิรูปพรรควิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งก่อนเกิดการรัฐประหารและ คสช.กว่า 1 ปี ถ้าเชื่อตนช่วยกันปฏิรูปพรรคและไม่บอยคอตการเลือกตั้งตอนนั้นคงไม่มีการรัฐประหารและต้องสูญเสียประชาธิปไตยมาจนถึงวันนี้

ส่วนการลาออกจากพรรคก็ตอนเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้วยเหตุผลเชิงหลักการว่าการทำงานปฏิรูปต้องเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด สำหรับประเด็นการเอาใจ คสช.นั้นระหว่างที่ตนเป็น สปช.ก็ลงมติสำคัญๆ สวนทางกับ คสช.โดยเฉพาะร่างกฎหมายโฉนดชุมชนและร่างรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์ ตนก็โหวตรับจนไม่คิดว่าจะได้มาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และยิ่งไม่คิดว่าจะได้รับเลือกจากสมาชิกให้เป็นรองประธานสปท.คนที่ 1 ช่วงเป็น สปช.และรองประธาน สปท.เกือบ 3 ปีก็ไม่เคยไปพบไปหา คสช.ที่บ้านหรือในค่ายทหารเป็นการส่วนตัวแม้แต่ครั้งเดียวจะพบเฉพาะในที่ประชุมตามปกติเท่านั้น ถ้าตนอยากได้ตำแหน่ง อยากได้ผลประโยชน์คงวิ่งเข้าไปรับใช้ใกล้ชิด และตอนยังเป็นรองประธาน สปท.ก็ประกาศวางมือการเมืองขอทำงานปฏิรูปประเทศตั้งแต่ 13 เมษายน 2559 ก่อนพ้นจากตำแหน่งถึง 1 ปี และไม่สะกิดใจหรือว่าถ้าตนอยากได้ตำแหน่งทางการเมืองทำไมจึงไม่มีชื่อตนไปเป็นแกนนำพรรคต่างๆ ที่จัดตั้งและประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ทั้งที่เป็นนักการเมืองคนเดียวที่มีตำแหน่งสูงสุดในแม่น้ำ 5 สาย คุณวัชระต้องหัดมองคนอย่างเข้าใจและพูดความจริง มิใช่กล่าวหาใส่ร้ายสาดโคลนแบบการเมืองเก่าๆ ซึ่งไม่เป็นที่พึงปรารถนาของประชาชน และเชื่อว่าสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับการเมืองสไตล์นี้เพราะมีแต่ทำให้พรรคตกต่ำ

การที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดพรรคกว้างให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรคแบบไพรมารีถือว่าเดินมาถูกทางแล้วและตรงกับแนวทางของตนที่เสนอเมื่อ 5 ปีที่แล้วให้ใช้ระบบไพรมารีในการเลือกผู้สมัคร ส.ส.และตำแหน่งผู้บริหารพรรคเช่นหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค

“ผมฝากถึงท่านอภิสิทธิ์หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคบางท่านว่า จะปฏิรูปพรรคต้องเปิดใจกว้าง อย่าให้ลูกพรรคดิสเครดิตทำลายชื่อเสียงกีดกันกันตั้งแต่ไก่โห่แบบนี้ ทั้งที่ตนยังไม่ตัดสินใจจะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ต้องคิดว่ายิ่งมีคนสนใจลงสมัครไม่ว่าคนในหรือคนนอกยิ่งดีต่อพรรค เพราะสมาชิกจะได้มีผู้นำพรรคให้เลือกหลายคน”

 

ที่มา : มติชนออนไลน์