“เพื่อไทย” คึกคัก ประชุมนัดแรก! “หญิงหน่อย-โภคิน” เข้าสมัคร “ป๋าเนาะ” ลั่นยังไงก็ที่ 1

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้มีการจัดประชุมเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับพรรคใหม่ โดยมีบรรดาอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคพท. อดีต ส.ส.จากทั่วทุกภาค แกนนำ นปช.และสมาชิกพรรคพท. เดินทางมาประชุมอย่างพร้อมเพรียงตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธารคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายชัยเกษม นิติศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค รวมทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำภาค กทม. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำนปช. โดยได้ดำเนินการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพท.เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคพท. ด้วย

เวลา 09.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคพท. กล่าวว่า วันนี้ ( 26 กันยายน) เป็นวันแรกที่มีการเปิดบ้านให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค อดีตรมต.และนักการเมืองของพรรคทั้งหมดมาพูดคุย หลังเกิดการรัฐประหารมาเกือบ 5 ปี สำหรับสาระสำคัญ็เป็นไปตามกระบวนการที่เข้าสู่เรื่องที่รัฐบาล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดเอาไว้ว่า ที่จะต้องทำ 2 เรื่องที่สำคัญ และเมื่อเสร็จจึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการของการจัดส่งผู้สมัครทั่วประเทศได้ คือ1. การจัดการข้อบังคับพรรค ซึ่งทุกพรรคต้องดำเนินการ ขณะนี้เราได้ผ่านกระบวนการที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้ลงมติเรียบร้อย ในส่วนของร่างที่เราได้ไปสำรวจความเห็น และนำเผยแพร่บนหน้าเว็ปไซต์พรรคแล้ว ทั้งเรื่องอุดมการณ์ เจตนารมณ์ แนวนโยบายของพรรค

ส่วนขั้นที่สองคือเชิญสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศมาพูดคุยความเห็นของอุดมการร์ ความเห็น ซึ่งจะเป็นกรอบที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้เรามีความยุ่งยากลำบากมากสำหรับกติกาที่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันได้เขียนไว้ ทำให้เราต้องดูสิ่งต่างๆ ดูกติกาที่เขาพยายามใช้ เพราะโทษต่างๆ ที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรงมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของพรรคเหมือนกัน และ 2.เรื่องโครงสร้างการทำงานในอนาคต ซึ่งเราจะได้หารือกันทั้งหมด เพื่อจะเข้าไปสู่การอนุมัติข้อบังคับพรรคส่วนใหญ่ซึ่งจะจัดในวันที่ 3 ตุลาคม 2561

เมื่อถามว่า ข้อสำคัญของการแก้ไขข้อบังคับพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับใหม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตามเงื่อนไขข้อกำหนดทั้งหมด ผังโครงสร้าง การจัดการอุดมการณ์ ข้อจำกัดของนโยบายก็ต้องระมัดระวัง อย่างน้อยที่สุดคือการที่ยังไม่มีการแก้ไขปรับตัวเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือกฎกติกาของรัฐธรรมนูญแม้ว่าถึงแม้ว่าหลายเรื่องเรายังไม่เห็นด้วยและมีทิศทางที่อาจจะต้องแก้ไขปรับปรุงเลือกร่วมกันของพี่น้องประชาชนแต่ภายใต้กฎติกากติกาเช่นนี้เราก็คงจะต้องรักษา และยืนตามกรอบกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่

เมื่อถามว่าวันนี้เป็นการเช็คชื่อสมาชิกพรรค ใช่หรือไม่นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่การเช็คชื่อ แต่ทุกคนเรายังรักกันสามารถงานการเมืองร่วมกัน วันนี้จะได้ทราบว่ามีใครที่ยังรักและอยากร่วมงานกับพรรค ส่วนจะหารือการเลือกหัวหน้าพรรค ก็มีอยู่ในวาระของการพูดคุย ซึ่งรายชื่อหัวหน้าพรรคเรากำลังสำรวจความคิดเห็น และที่มาจากการเสนอแนะจากสมาชิกทุกคน ถ้าเสนอมาเราก็พร้อมที่จะนำชื่อเหล่านั้นมาพิจารณา

เมื่อถาม ถึงกระแสข่าวว่าพรรคพท. มีแนวคิดร่วมมือกับพรรคปชป. และดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล ว่า เราจะต้องยึดมั่นใน 3 รายชื่อที่พรรคจะเสนอส่วนข่าวเมื่อวาน (25 กันยายน) จากที่ตนได้ตรวจสอบ นายโภคิน พลกุล ก็ได้ปฎิเสธว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เรายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ตอนนี้ไม่ใชเวลาที่จะมานั่งพูดว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค หรือจะเอาหัวหน้าพรรคไปยกให้ใคร จุดยืนของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเรามีคนของเรา ที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมที่จะเสนอคนที่มีศักยภาพ ให้ประชาชนได้เป็นคนตัเสินในวันเลือกตั้ง

เมื่อถามต่อว่า พรรคพท.สามารถทำงานร่วมกับ ปชป. ได้หรือไม่ นายภูมธรรม กล่าวว่า วันนี้เราพูดเรื่องที่ทำให้เราสามารถดำเนินกิจการทางการเมืองไปได้อย่างถูกต้องจะดีกว่า ทั้งนี้เราสามารถทำงานกับฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดได้ ถ้ามีจุดยืนว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ไม่รับการบริหารงานที่สร้างปัญหาและเป็นเผด็จการ เมื่อถามย้ำว่า ในอนาคตพรรคพท. มีโอกาสร่วมงานกับพรรคปชป. ได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ายืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เอานายกรัฐมนตรีที่มาจากกรสืบทอดอำนาจก็สามารถคุยกันได้ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน นโยบายเหมือนกันไหม การบริหารงานร่วมกันที่จะพาประเทศชาติหลุดจากสภาพที่เป็นอยู่ ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าร่วมมือกันได้ก็ไปกันได้

จากนั้น เวลา 10.15 น. เริ่มการประชุมพรรค โดยมีนายเสนาะ พล.ต.ท.วิโรจน์ นายปลอดประสพ นายภูมิธรรม ชูศักดิ์ คุณหญิงสุดารัตน์ นายจาตุรนต์ นายโภคิน และนายชัยเกษม นั่งบนเวทีเป็นประธานการประชุมร่วมกัน ที่น่าสังเกตคือ การประชุมวันนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม หรือนั่งเป็นประธานการประชุมแบบทุกครั้ง รวมถึงคนจากฝั่งบ้านแจ้งวัฒนะ อย่าง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคพท. และลูกๆ ก็ไม่ได้มาร่วมการประชุม

โดย นายเสนาะ กล่าวก่อนการประชุม ว่า วันนี้ถือเป็นวันที่เราได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง จากที่ห่ากันไปตั้ง 4 ปีกว่า ในฐานะที่เรายืนอยู่กับประชาชน ในฐานะอดีตส.ส.เราคือผู้อาสามาดูแลบริหารประเทศชาติบ้านเมือง ที่ผ่านมาเราเป็นไทยรักไทยตั้งแต่ปี 43 เรามีโอกาสได้จับมือกับน้องที่รักคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดตัวครั้งแรกพรรคทรท.มีสมาชิกร้อยกว่าชีวิต ช่วงเริ่มหาเสียง และเลือกตั้งตนมีโอกาสร่วมต่อสู้กับนายทักษิณ เราได้ส.ส. 207 คน จากจำนวนผู้แทน 400 คนในสภา และได้บัญชีรายชื่ออีกทำให้เราได้สมาชิกเกินกว่าครึ่ง เริ่มต้นตั้งรัฐบาลก็โดนคดีซุกหุ้นแต่ก็สู้จนชนะ ได้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ ได้บริหารประเทศ จะเห็นว่านายทักษิณบริหารประเทศจนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีนโยบายที่ต่อเนื่อง คนชื่อทักษิณออกนโยบายแล้วทำสำเร็จทุกเรื่อง มาวันนี้ พรรคพท.ยังคงอนุรักษ์ของเก่าอยู่ เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เรียกได้ว่าเกือบ 20 ปี นโยบายนี้ก็ยังขลังใช้ได้อยู่

นายเสนาะ กล่าวว่า แม้ว่าเราจากกัน 4 ปีกว่า แต่วันนี้เราได้มาพบกันก็ยังหนาแน่น ที่ไม่ได้มาก็เยอะ ถูกดูดไปก็หลาย แต่เราไม่ย่อท้อ โตๆกันแล้ว ตรงไหนดีไม่ดี จะดูออกหรือไม่ออกก็แล้วแต่เขา เมื่อเขาไปก็เป็นโอกาสให้สมาชิกใหม่ ซึ่งก็แย่งกันจะลง แต่ละคนมีศักยภาพ ซึ่งอาจจะเหนือกว่าคนเก่าด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ที่ถูกดูดไปตนรู้จักทั้งนั้น แต่ไม่ว่ากัน ทางใครทางมัน อย่างไรก็ตาม สำหรับ 46 ปีทางการเมืองของตน ถึงอย่างไรพรรคพท.ก็เป็นที่ 1 รับรองได้เลย เป็นที่ 1 ห่างด้วย ภาคเหนือก็มั่นคง ภาคอีสานไม่ต้องห่วง ภาคกลางก็ไม่แพ้ใคร ภาคใต้กำลังแก้ปัญหา มั่นใจคราวนี้ไม่น้อยหน้า คาดว่าจะได้ 10 คนขึ้นไป

“เราอยู่ด้วยกันต้องจริงใจ รักผูกพันกับพรรค กับพวกอย่างแน่นแฟ้น อย่าไปมองว่าเขากำลังคึกคัก ตนยืนยันได้ว่า แพ้เราขาด ไม่มีทางเทียบกันได้ ส่วนพรรคเก่าอย่างพรรคปชป. ไม่รู้ว่ากำลังเล่นอะไรกันเรื่องหัวหน้าพรรค ยื้อกันไปมา แต่ถ้าผมมองด้วยสายตาคิดว่าต่ำกว่า 100 แต่ของเรา 200 คนขึ้นไป ส่วนคนที่ถูกบีบ อย่าไปหวั่นไหว เลือกตั้งเสร็จ พวกนี้ก็หมดอำนาจ อย่าไปหวั่นไหวว่าเขาจะตั้งรัฐบาลได้ เรื่องที่เขาเอามาบีบเรา ถ้าเราผิดจริง เผาไฟไม่ได้เขาก็ขุดขึ้นมาได้ เขาช่วยเราไม่ได้หรอก แค่เอามาบีบตอนนี้เท่านั้น แต่ถ้าใครแยกออกไปจะมองหน้ากันไม่ติด ส่วนส.ว.250 คน ไม่ได้ทำให้เขาเป็นนายกฯได้ หรือต่อให้เป็นนายกฯได้ก็บริหารประเทศไม่ได้ ท้ายที่สุดก็มีอันเป็นไป ผมแม้ปีนี้จะอายุ 85 ปีแล้ว แต่ขอยืนยันว่าจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และพวกเราตลอดไป” นายเสนาะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในพรรคพท.ว่า อดีตรัฐมนตรีของพรรค และอดีตส.ส.ของพรรคต่างเดินทางมาประชุมร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงเต็มห้องประชุมขนาดใหญ่ บนชั้น 7 ของพรรคพท. โดยทางพรรคได้จัดทำแบรนเนอร์หลังเวทีห้องประชุม และเวทีแถลงข่าวใหม่ เป็นข้อความ “พท. มุ่งสร้างประชาธิปไตย ร่วมยืนหยัดกับประชาชน ไม่จำนนต่อเผด็จการ” ด้วย

ที่มา : มติชนออนไลน์