พลังพลเมืองไทย จ่อประชุมใหญ่ ประกาศส่งผู้หญิงลงสมัครพื้นที่กทม.ทุกเขต

พรรคพลังพลเมืองไทย จ่อจัดประชุมใหญ่ 21 ต.ค. ประกาศส่งผู้สมัครหญิงล้วน​ลงกทม.​ ตั้งเป้าได้ส.ส. 20 คน แนะ 4 รัฐมนตรีพปชร. คิดเอาเอง ควรลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ หวั่น​ พรรคเด็กเส้นได้อภิสิทธิ์จาก​กกต.

เมื่อเวลา 13.30 น.​ วันที่​ 1 ตุลาคม​ ที่ทำการพรรคพลังพลเมืองไทย (พพพ.)​ ถนนราชวิถี​ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาพรรค เพี่อทบทวนมติต่างๆ กลั่นกรองนโยบายสำคัญของพรรค​ รวมถึงเรื่องการจัดประชุมใหญ่ นอกจากนี้​ ยังมีการรับสมัครสมาชิกใหม่และแถลงถึงผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย​ โดยนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลังพลเมืองไทย แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติจัดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 ในวันที่ 21 ตุลาคม​ เวลา 13.00 น. ที่โรมแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่

โดยจะพิจารณาการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม​ เวลานี้พรรคมีจำนวนผู้ยื่นความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้งรวมกว่า 200 คน แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ 70 คน ภาคเหนือ 42 คน​ ภาคกลาง 61 คน​ และภาคใต้ 32 คน ส่วนกรุงเทพมหานคร​ พรรคจะส่งผู้สมัครเป็นผู้หญิงทั้งหมด 30 เขต ส่วนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขณะนี้มีผู้สมัคร 66 คน ทั้งคนมีชื่อเสียงและข้าราชการเกษียณ

โดยคาดหวังว่าจะสามารถส่งผู้สมัครให้ได้ 100-150 คน​ และพรรคหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้​ จะได้ที่นั่งส.ส.ไม่ต่ำกว่า 20 คนเพื่อสามารถเสนอกฎหมายได้ และหากได้ส.ส. ถึง 25 คน เราก็จะสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ โดยจะเสนอนโยบายคร่าวๆ 4 ข้อ อาทิ หมู่บ้านจัดการตนเอง การตั้งกองทุนเพื่อผู้พิการทุกลักษณะ

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีที่เพิ่งประกาศตัวเป็นแกนนำในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)​ ควรต้องลาออกหรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากแสดงความคิดเห็น ขอให้เขาคิดเองว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนและนักการเมืองสบายใจ เชื่อว่าเขาคงคิดเองได้เพราะคนในรัฐบาลเป็นระดับด็อกเตอร์หลายคน ท่านคงไม่คิดทำผิด หากไปเร่งเร้าแล้วเกิดรัฐมนตรีลาออก เดี๋ยวจะไม่มีคนทำงาน ตนหวังว่าผู้มีอำนาจรัฐหรือรัฐมนตรีที่ไปเป็นแกนนำพรรคการเมือง จะไม่เอาอำนาจที่มีอยู่มาเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นและไม่กล้าทำผิด เพราะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ทำงานอย่างรวดเร็วคอยตรวจสอบอยู่ ซึ่งตนคิดว่า​ กกต.ชุดปัจจุบันมีความเป็นกลาง​และทำหน้าที่ได้ดี

เมื่อถามว่า กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)​ ขอให้ทุกพรรคการเมืองจับตาการประกาศรับรองพรรคพลังประชารัฐของกกต. ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไรนั้น นายสัมพันธ์กล่าวว่า พรรคพลังพลเมืองไทยใช้ระยะเวลาในการรับรองสถานะพรรค 70 วัน เนื่องจากติดขัดเรื่องเอกสารที่ไม่ครบถ้วน และการที่พรรคอนาคตใหม่ใช้เวลา 97​ วันก็อาจจะติดขัดในเรื่องเอกสารด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนพรรคที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลในปัจจุบันก็ขอให้จับตาดูว่ากกต.จะใช้เวลารับรองเท่าไร

เมื่อถามว่า พรรคพลังพลเมืองไทยเจอพลังดูดจากพรรคเด็กเส้นหรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ไม่มีการดูด และเราไม่ไปดูดแข่ง แต่เราจะทำแบบเงียบๆ อย่างไรก็ตาม​ ใครทำอะไรไว้ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นเอง หวังว่าผู้มีอำนาจจะไม่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูก

ขณะที่ นายเอกพร รักความสุข เลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทย กล่าวว่า อยากให้สังคมสนใจพรรคการเมืองหน้าใหม่ ไม่ใช่เฉพาะพรรครัฐบาล หรือพรรคการเมืองที่เคยเป็นรัฐบาล ซึ่งตนกังวลเรื่องพรรคเด็กเส้นที่จะทำอะไรก็ทำได้ จะดูดใครก็ดูดได้ ในขณะที่พรรคที่ทำตามกฎหมายอย่างพรรคพลังพลเมืองไทยทุกคนทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง แต่กลับติดขัดเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิก ดังนั้น​ เพื่อเป็นการสนับสนุนพรรคการเมือง​ รัฐบาลและกกต. จะต้องทำให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคสามารถสรรหาผู้สมัครลงรับการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด​

ที่มา : มติชนออนไลน์