“ชาญวิทย์” ปัดลง ส.ส. อนาคตใหม่ หวังฝ่ายปชต.ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย

“ชาญวิทย์” ภาวนา​ฝ่ายประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งถล่มทลาย​ ปัดลง​ ส.ส.​ “อนาคตใหม่” ​เพราะอายุมากแล้ว-แค่ให้คำแนะนำ​ ชู​ “ธนาธร-ปิยบุตร” เป็นคนชัดเจน​ เห็นด้วยแก้รัฐธรรมนูญ​ ชี้​พรรคหนุนทหารไม่ประสบความสำเร็จ​ เพราะเป็นเจ้าคนนายคน-คุยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง​ ระบุ​ “พลังประชารัฐ” น่าเห็นใจ​ จุดขายไม่ค่อยมี เชื่อ​ “เพื่อไทย” มาวิน​ เลือกตั้ง’62

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม​ ที่​​สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.)​ ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์​ นายชาญวิทย์​ เกษตรศิริ​ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวว่าเหตุผลที่เลือกสมัครสมาชิกกับอนาคตใหม่​ เพราะต้องการช่วยลูกศิษย์​ คือ​​​นายปิยบุตร​ แสงกนกกุล​ เลขาธิการพรรค​ เมื่อถามว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ด้วยหรือไม่​ นายชาญวิทย์กล่าวว่า​ ตนแก่เกินไปแล้ว​ สิ่งที่จะได้คงเป็นการให้คำปรึกษา​ ส่วนจะชักชวนคนในแวดวงวิชาการมาช่วยพรรคอีกหรือไม่​ ตนคงไม่อุทิศตัวขนาดนั้น​ และนักวิชาการก็ไม่ได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน​ ตนเองก็มีความเป็นอิสระอย่างมาก

เมื่อถามว่า​ ความพิเศษของอนาคตใหม่เมื่อเทียบกับพรรคอื่นๆ คืออะไร​ อดีตอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์กล่าวว่า​ ทั้งนายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ หัวหน้าพรรค​ และนายปิยบุตร​ เป็นคนที่ชัดเจน​ ไม่ต้องอ้อมค้อมหรือคิดมาก​จึงถูกใจตน​ แม้ว่าตนจะเป็นคนรุ่นเก่าแล้วก็ตาม นอกจากนี้​ ตนยังเห็นด้วยกับข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ด้วย

“ผมรำคาญความยืดยาด​ ความไม่ชัดเจน​ รู้สึกเบื่อ​ พรรคการเมืองที่ผ่านมาก็มีความชัดเจน แต่คนจำนวนมากที่ผมรู้จัก​ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นผมซึ่งกำลังจะหมดแล้ว หรือคนรุ่นหลังผม​อย่างคนเดือนตุลา​ เวลามันวิ่งเลยเขาไปแล้ว​ เขาไม่ทันโลก” นายชาญวิทย์​กล่าว

เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่าพรรคอนาคตใหม่ทำการเมืองในรูปแบบอุดมคติมากเกินไป​ นายชาญวิทย์กล่าวว่า​ คนที่รู้จักกับตนก็เสนอความเห็นแบบนี้​ แต่ตนก็มักจะบอกว่า​ ถ้าคุณไม่ฝันแล้วคุณจะทำไปทำไ​ม​ ไม่อย่างนั้นเราก็จะเหมือนกับสิ่งทั่วไป​ ซึ่งเราไม่ต้องการ​ เราต้องการอะไรที่มากกว่าที่เคยมีมา​ ส่วนพรรคจะต้องปรับอะไรหรือไม่นั้น​ ตนไม่แน่ใจว่าจะฉลาดพอที่จะแนะนำ​

“เท่าที่ดูก็ค่อนข้างแปลกใจ​ อย่างคุณธนาธรซึ่งผมพบเขาวันนี้วันแรก และไม่ได้รู้จักมาก่อน​ ผมสงสัยว่าคุณธนาธรมีการเตรียมตัวมาถึงขนาดนี้เลยหรือ ตอนเห็นรูปเขาไปประท้วงตอนเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ก็งง​ เหมือนเขาเตรียมตัวมาพอสมควร​ ไม่ได้ไร้เดียงสากระโดดลงมาการเมือง” นายชาญวิทย์กล่าว

เมื่อถามถึงรูปแบบการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งในปี 2562 นายชาญวิทย์กล่าวว่า​ ทำนายยากมาก​ พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนคณะทหาร​ มองย้อนไป​ เช่น​ พรรคเสรีมนังคศิลาของจอมพลป.พิบูลสงคราม​ หรือพรรคสหประชาไทยของจอมพลถนอม​ กิตติขจร​ ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ​ ดังนั้น​ ประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้บอกว่าคนที่เป็นตัวแทนของระบบราชการ​ ไม่ว่าจะทหาร​ ตำรวจหรือตุลาการ​ จะไม่ประสบความสำเร็จในการมาเล่นการเมืองประชาธิปไตย​ ซึ่ง​​​ต้องเกี่ยวข้องกับประชาชนเป็นส่วนใหญ่​ เพราะความเป็นเจ้าคนนายคน​ ทำให้เขาพูดกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามถึงโอกาสประสบความสำเร็จของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชาญวิทย์กล่าวว่า คงไม่ง่ายเพราะจุดขายไม่ค่อยมี​ ดูแล้วน่าเห็นใจ ส่วนพรรคอนาคตใหม่จะได้คะแนนเสียงมากแค่ไหนนั้น​ ตนไม่ทราบและไม่กล้าลงรายละเอียดตัวเลข​ แต่ตนมีความรู้สึกว่าในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์​ 2562 นั้น​ พรรคเพื่อไทย (พท.) ยังมีน้ำหนักสูงมาก​ จะก้าวข้ามหรือก้าวให้พ้นนั้นทำได้ยาก​ ดังนั้น​ พรรคอนาคตใหม่จึงต้องทำงานหนัก

“ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งคงไม่ใช่อนาคตอันใกล้เช่นภายในปีหน้า เห็นจากอายุของคุณธนาธรและคุณปิยบุตร ยังมีเวลาอีกเยอะ” นายชาญวิทย์กล่าว

ส่วนโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ​เพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น​ นายชาญวิทย์​ กล่าวว่า​ ในแง่การเมือง​ มีความเป็นไปได้​ แต่ไม่น่าจะง่าย​ เขาจะเกี้ยเซี้ยกันได้ไหม ที่ผ่านมา 20 ปีอาจจะเลยจุดนั้นไปแล้ว เช่นเดียวกับโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมเสียงพรรคอื่นๆ เป็นรัฐบาล ก็เป็นไปได้เช่นกัน

“เราย่ำอยู่กับที่มานานจนคนมีบทเรียนและเข้าใจการเมือง โซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง​ เช่น​ เมื่อดูการเลือกตั้งของมาเลเซีย จะพบว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของเขาเริ่มต้นที่ 21 ปี​ แต่ของไทยเริ่มต้นที่ 18 ปี​ ถือว่าเราก้าวหน้ากว่า​ และด้วยเสียงของคนรุ่นใหม่ในมาเลเซียนี่เองที่ทำให้เกิดสึนามิมาเลเซียถล่มทลาย​ ผมยังขอภาวนาให้ฝ่ายประชาธิปไตยของไทยชนะอย่างถล่มทลาย​ เพราะจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนผ่านไปได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออย่างที่ผ่านมา​ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย​ แต่บางอย่างเราก็ต้องฝันและหวัง​ ถ้าเราไม่ฝันไม่หวัง​ เราก็บินไม่ได้” นายชาญวิทย์กล่าว

 


ที่มา : มติชนออนไลน์