“หญิงหน่อย” หนุนนำจุดแข็งในอดีตมาใช้ ยัน “ทักษิณ” เลิกเล่นการเมือง-ไม่ชี้นำพรรค

ที่ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีการจัดงานประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 2 จ.เชียงใหม่ (ภาคเหนือ) มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคต้องนำจุดแข็งของพรรคในอดีตมาปรับใช้พร้อมหาวิธีแก้ปัญหาความเดือดร้อนที่เป็นไปได้ และลงมือทำปฏิบัติเป็นพรรคคิดเป็น ทำเป็น และทำสำเร็จ ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ประชาชน ยังให้ความนิยมและเมตตาพรรคมา 10 กว่าปีแล้ว เพราะเรามีความตั้งใจ ซื่อสัตย์ แก้ปัญหา ทำให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้ โดยวางบทบาทพรรค ว่าให้ยืนอยู่บนจุุดแข็งของตัวเอง มุ่งไปข้างหน้า พร้อมเชื่อมโยงกับโลกใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือทำมาหากินให้ประชาชน ได้ง่ายมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ส่วนกติกาเลือกตั้งใหม่นั้น อาจทำให้การเลือกตั้งยากขึ้น แต่ต้องไม่ทำผิดระเบียบกฏหมาย

“นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่คิดหวนมาเล่นการเมืองอีก เพียงแต่ท่านมีความรักห่วงใยประชาชนและประเทศเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่ความผิด ไม่ได้เป็นปัญหา ส่วนผู้ลงสมัคร ส.ส. นายทักษิณไม่มีส่วนเลือก ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัคร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฏหมาย การเลือกผู้สมัครของพรรค ไม่ได้แตกต่างพรรคอื่น อาจแตกต่างเลือกหัวหน้าพรรค เพื่อใช้วิธีโหวตเตอร์ เป็นการแข่งขันตามปกติทุกพรรคทำเหมือนกัน แต่บางพรรคหาเสียงเลือกหัวหน้าพรรคได้ แต่พรรคเราทำไม่ได้ เพราะเคยถูกยุบพรรคมา 2 ครั้งแล้ว ก็ต้องระวัง การเลือกหัวหน้าพรรค ไม่มีใครชี้นำ เพียงแต่ไม่มีโอกาสไปหาเสียงเท่านั้นเอง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

การเลือกตั้งครั้งหน้า มีการได้เปรียบเสียเปรียบอยู่แล้ว เพราะอำนาจอยู่ที่เขา ต้องใช้ความพยายาม เป็นไปตามกรอบกฏหมาย ยอมรับยากขึ้นแต่ไม่ถอดใจท้อ ต้องสู้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 200 ที่นั่ง บวกกับพรรคที่เป็นพันธมิตรอีก 100 ที่นั่ง เป็น 300 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เท่าที่ติดตามนายทักษิณ ไม่ได้พูด เพื่อเข้ามาก้าวก่ายพรรค แต่แสดงความเห็นในฐานะที่อยู่ภายนอก ซึ่งประชาชนอยากให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ดังนั้นพรรคที่อยู่ในซีกประชาธิปไตย น่าจะได้ ส.ส.เท่าไร หากคาดเดาความคิดจากนายทักษิณ ว่าฝ่ายที่อยู๋ซีกประชาธิปไตย คงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้น เนื่องจากได้รับการปฏิบัติไม่ทัดเทียม ได้รับความยากลำบากการดำรงชีวิต ส่วนจำนวน ส.ส.ได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรคมากกว่าพยายามทำให้ได้ ส.ส. มากที่สุด

 

ที่มา : มติชนออนไลน์