ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษา “ธาริต” หมิ่น “สุเทพ” ก่อสร้างโรงพักร้าง 396 เเห่ง

ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษา ธาริต หมิ่น สุเทพ ก่อสร้างโรงพักร้าง 396 เเห่ง เหตุฝ่ายจำเลยยื่นหลักฐานความคืบหน้าคดีที่ปปช.ประกอบให้ศาลฎีกาพิจารณา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ อ.495/2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการ กปปส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328

โดยนายสุเทพยื่นฟ้องคดีเมื่อ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 21 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2556 นายธาริต ขณะนั้นซึ่งดำรงตำเเหน่งอธิบดีดีเอสไอ ได้แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชน กล่าวหาว่า นายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาวันที่ 26 มีนาคม 2558 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า การแถลงข่าวของจำเลย เป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพัก และให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้กระทำการทุจริต การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลย เป็นการสรุปความคืบหน้าของคดีตามพยานหลักฐาน ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ได้ปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

นายสุเทพโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยด้วย

ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

นายสุเทพโจทก์ยังยื่นฎีกาต่อ

โดยในวันนี้ฝ่ายโจทก์มีนายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความ เดินทางมาศาล ส่วนนายธาริต จำเลยไม่ได้เดินทางมา โดยมีทนายความผู้รับมอบอำนาจขึ้นเเถลงศาลว่า นายธาริต มีการป่วยติดเชื้อในลำไส้ไม่สามารถเดินทางมาศาลพร้อมเเสดงใบรับรองเเพทย์ต่อศาล พร้อมยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อประธานศาลฎีกาขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ศาลฎีกาวินิจฉัย โดยนายสวัสดิ์ทนายโจทก์คัดค้านโดยขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากไม่เชื่อว่าจำเลยป่าวจนไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ เเละคัดค้านพยานเอกสารที่จำเลยยื่นเพิ่มเติมเนื่องจากเอกสารที่โจทก์ยื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการเเถลงข่าวความคืบหน้าคดีก่อสร้างโรงพักของพล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ปปช.เป็นเรื่องที่มีอยู่เดิมในชั้นพิจารณาเเล้วไม่ใช่เรื่องใหม่

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วเชื่อว่าเอกสารถ้อยคำที่มีการยื่นเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังการพิจารณาของศาลชั้นต้นเเละศาลชั้นอุทธรณ์ เชื่อว่าศาลฎีกายังไม่ได้พิจารณาเอกสารดังกล่าวเเละเอกสารทั้ง3ชุดที่ยื่นมานั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพักทั้ง 396 เเห่งซึ่งเป็นมูลเหตุในการฟ้องหมิ่นประมาทในคดีนี้ จึงเห็นควรมีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอจำเลยรวมถึงถ้อยคำในเอกสารส่งขึ้นให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไปเเละเมื่อมีคำสั่งส่งคำร้องเเล้วก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยป่วยจนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้หรือไม่ จึงมีคำสั่งให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปจนกว่าศาลฎีกาจะมีการพิจารณาคำร้องของจำเลยเเละมีคำสั่งต่อไป

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์