วันนี้ (2 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า อีกเรื่องหนึ่งอยากจะขอความร่วมมือ จะเห็นได้ว่าการเมือง การเลือกตั้ง กำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว อย่าให้มันวุ่นวาย สับสน อีกเลย ประชาชนอาจจะมีภูมิคุ้มกันที่ไม่มากพอ หลายคนอาจจะพูดเพื่อไปสู่การเลือกตั้ง ให้ได้รับเลือกอะไรต่างๆเหล่านี้ มีการติติงว่ากันไปมา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนบางคนก็ชอบดู ชอบฟัง แล้วก็พูดต่อ โพสต์ต่อ บางทีก็ไม่ได้รู้ว่าถูกหรือไม่ถูก บางทีก็สนุกดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว ประเทศจะเป็นผู้ที่ได้หรือเสีย ประชาชนจะตามมา you get what you do เพราะฉะนั้นที่สุดต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว ต้องหาคนที่ทำงานจริง ทำงานเป็น ทำงานได้ ไม่ใช่เพียงแต่ว่าได้ทำ แล้วทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป หรือแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญที่ออกมาแล้วยังมีอคติ ก็ดำเนินการใช้ให้เกิดประโยชน์ไปก่อน วันหน้าค่อยว่ากัน ถ้ายังไม่ปฏิบัติ ก็เหมือนติเรือทั้งโกลน ติโขนยังไม่ได้ทรงเครื่องจะคาดหวังกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำลายของเก่าเพื่อจะสร้างสิ่ง ให้เข้ามาแก้ไขดีกว่า ไม่ใช่ไปล้มในสิ่งที่ยังไม่เคยใช้ คือสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ
นายกฯ กล่าวอีกว่า หลายคนเคยอยู่ในระบบการบริหารราชการแผ่นดินมาแล้ว วันนี้ออกมาพูด ตำหนิ ติติง สื่อนำมาขยายความให้ โซเชียลมีเดียขยายให้ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด สับสนอลหม่านไปหมดในสิ่งที่รัฐบาลทำมาทั้งหมดก็เสียหายไป ก็กลับไปสู่ที่เดิม เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ เสียเวลาวันข้างหน้าไปอีกกี่รัฐบาล เพราะฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยนั้น ไม่จำเป็นต้องให้ร้าย หรือสร้างความเกลียดชังนี่้คือการปฏิรูปทางการเมืองอันดับหนึ่ง กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมต้องได้รับการยอมรับ เมื่อผู้ตัดสินถูก-ผิด ตามหลักฐานแล้วต้องไม่มีใครก้าวล่วง หากผู้ทำความผิดไม่ไปให้ผลประโยชน์ แลกเปลี่ยนกับคนที่ไม่ดีอาจจะมีอยู่บ้าง น่าอับอายแทนคนเหล่านั้น ทุกคนรู้ตัวดี ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ศาล อัยการ ขอร้องอย่าให้มีอีกต่อไป
