“ธนาธร” พร้อมทีม “พรรคอนาคตใหม่” ลงพื้นที่กทม.ครั้งแรก บุกบ้านเกิดบางรัก-เยาวราช

“ธนาธร” ควงแม่-พี่สาว พร้อมทีม “อนาคตใหม่” ลงพื้นที่กทม.ครั้งแรก เลือกบ้านเกิดย่านบางรัก จุดคิกออฟคาราวาน “กรุงเทพขยับ” – เดินเท้าเยาวราช ชวนคนสมัครสมาชิก ไม่หวั่นถูกต้านเหมือน “สุเทพ” เพราะพรรคไม่ได้ทำปชช.โกรธแค้น 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ซอยสันติภาพ 1 ถนนทรัพย์ ย่านบางรัก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นำทีมแกนนำพรรค อาทิ นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ทำกิจกรรม “กรุงเทพขยับ” พร้อมด้วย นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาว ร่วมลงพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก เพื่อพบปะประชาชน แนะนำพรรค และหาสมาชิก โดยเหตุผลที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่แรก เนื่องจากเป็นบ้านเก่าของครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่สมัยอากงและนายพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ บิดา ผู้บุกเบิกอาณาจักรไทยซัมมิท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น นางสมพรเป็นผู้นำชม แนะนำพื้นที่ละแวกชุมชนที่มีความผูกพันมานานหลายสิบปี บอกเล่าความเป็นมาของบรรพบุรุษและการค้าของครอบครัว พร้อมทั้งพานายธนาธรแนะนำตัวแก่ประชาชนโดยรอบที่ให้ความสนใจ ซึ่งนายธนาธรกล่าวว่า ตนไม่ได้กลับมานานหลายสิบปี แม้ยังพอจำได้ แต่ความทรงจำเลือนลาง ที่นี่ถือว่าเหมาะสมที่สุดในการเป็นจุดเริ่มต้นของการขยับกรุงเทพ เพราะเป็นสถานที่ที่ตนเติบโตมาและเป็นจุดเริ่มต้นของครอบครัว และเมื่อได้กลับมาก็รู้สึกดีใจ

จากนั้นเวลา 13.30 น. นายธนาธรและทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ทั้งกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคที่เข้าร่วมไพรมารีโหวต เพื่อเป็นผู้สมัครส.ส. เช่น นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นักปรุงคราฟท์เบียร์ ผู้สมัครไพรมารีโหวตเขตบางเขน เดินทางมาแนะนำตัวลงพื้นที่ย่านเยาวราช เริ่มต้นจากซอยแปลงนาม บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน ได้รับการตอบรับจากชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างดี ทั้งร้านค้าริมทางเท้า ร้านอาหาร ร้านทอง และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ร่วมทักทาย ถ่ายภาพร่วมกับนายธนาธรและแกนนำพรรค ส่วนทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินแจกแผ่นพับพิมพ์คิวอาร์โค้ดเชิญชวนสมัครสมาชิก พร้อมทั้งชูป้ายประชาสัมพันธ์วิสัยทัศน์ “ไทยสองเท่า เท่าเทียมกันเท่าทันโลก” ด้านนางสมพร และน.ส.ชนาพรรณต่างก็ร่วมเดินหาสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว

นายธนาธรกล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่ ว่า เป็นไปอย่างสนุกสนาน มีหลายคนที่ไม่รู้จักพรรคอนาคตใหม่เข้ามาสอบถามนโยบาย ส่วนคนที่รู้จักอยู่แล้วก็เข้ามาขอถ่ายรูป ขอจับมือ และให้กำลังใจ โดยการทำกิจกรรมครั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เกรงกลัวว่าจะเข้าข่ายการหาเสียงและขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จนทำให้เกิดผลกระทบต่อพรรคในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุญาตให้พรรคสามารถรับสมัครสมาชิกได้ ซึ่งขณะนี้เป็นเวลา 1 เดือนนับแต่กกต.ให้การรับรองพรรค พรรคมีสมาชิกทั่วประเทศแล้วประมาณ 7,000 คน นอกจากนี้ ตนยังไม่กังวลว่ากิจกรรมนี้จะถูกต่อต้านจากประชาชนเช่นเดียวกับกิจกรรม “เดินคารวะแผ่นดิน” โดยนายสุเทพ เทือกสุวรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็น และพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ทำให้ประชาชนโกรธแค้น เราต้องการเป็นพรรคที่ออกมายืนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน นำประชาธิปไตยกลับมา จึงไม่คิดว่าเราเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน รวมถึงไม่คิดว่าการมีประชาชนออกมาต่อต้านการเดินของนายสุเทพจะมีส่วนต่อการล้มการเลือกตั้งหรือทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป

เมื่อถามว่า ระหว่างการเดินพบปะประชาชน มีปัญหาใดที่ประชาชนสะท้อนและต้องการให้อนาคตใหม่แก้ไขหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า มีเยอะมาก โดยเฉพาะปัญหาคมนาคมและการศึกษา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 22 พฤศจิกายน จะมีการประชุมร่วมระหว่างกกต.และพรรคการเมือง พรรคอนาคตใหม่มีข้อกังวลใดที่ต้องการสอบถามหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี กังวลอย่างเดียวคือจะมีความพยายามใช้พรรคการเมืองเป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่มีประเด็นนี้ คสช.คงไม่มีข้ออ้างอื่นอีกแล้ว โดยตนคาดว่าการประชุมร่วมพรรคการเมืองครั้งที่จะถึงนี้ คงเอาข้ออ้างมาเยอะไปหมด

เมื่อถามต่อว่า แสดงว่ายังเชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายธนาธรกล่าวว่า มีโอกาส แม้ทุกคนจะมองไปวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้แปลว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันดังกล่าวอย่างแน่นอน ตนคิดว่ายังมีความไม่แน่นอนอีกมาก จึงเป็นไปได้ที่การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว

เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกมองว่ามีฐานเสียงเป็นคนรุ่นใหม่ จากการลงพื้นที่วันนี้ได้พบประชาชนที่สูงวัยกว่า มีเสียงตอบรับเป็นอย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า ดีมาก และคิดว่าเหมือนกันทุกที่ แม้ในออนไลน์จะพบคนรุ่นใหม่ แต่จากการลงพื้นที่ ทุกที่ส่วนใหญ่จะพบคนมีอายุ ครั้งนี้จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคอนาคตใหม่พบผู้สนับสนุนที่เป็นผู้มีอายุ และเราคาดว่าจะได้ฐานเสียงจากคนทุกกลุ่ม

ด้านนายรณวิตกล่าวถึงกำหนดการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งต่อไปของพรรคอนาคตใหม่ว่า กำหนดการเบื้องต้น คือ ในวันที่ 9-13 พฤศจิกายน เราจะลงพื้นที่ในเส้นทางหลักๆในกรุงเทพมหานคร โดยในศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน จะลงพื้นที่ย่านสีลมในเวลากลางคืน ส่วนในระดับภูมิภาค จะต้องหารือถึงแผนการอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ นายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค รวมถึงแกนนำพรรคได้ลงพื้นที่ในต่างจังหวัดมาพอสมควร จึงถึงเวลาที่พรรคต้องกลับมาที่ศูนย์กลางของประเทศคือ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ เพื่อให้ชาวกรุงเทพฯรู้จักพรรคอนาคตใหม่มากขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไป

ต่อมาเวลา 15.45 น. ทีมงานอนาคตใหม่เดินทางถึงจุดสุดท้ายคือ ร้านกาแฟเอี๊ยะแซ เพื่อพักจิบชากาแฟ ในบรรยากาศของสภากาแฟ โดยนายธนาธร กล่าวว่า วันนี้มีผู้สนใจสมัครสมาชิกอนาคตใหม่กันอย่างล้นหลาม เป็นบรรยากาศทางการเมืองที่สนุกสนาน อย่างที่ชาวอนาคตใหม่อยากเห็น ส่วนการเดินหน้าหาสมาชิกครั้งต่อไปคือวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ถนนสีลม ตนยอมรับว่าวันนี้ยังมีคนไม่รู้จักพวกเราอยู่ แต่นับจากวันนี้ไป ทีมกรุงเทพฯจะลงพื้นที่ชักชวนประชาชนสมัครสมาชิกในทั่วทุกเขตของพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนเรื่องการใช้เงินนั้น ตั้งแต่เปิดพรรคมา อนาคตใหม่สามารถระดมทุนได้ 26-27 ล้านบาทแล้ว ขอให้รอในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคม 2562 ทีมงานจะเปิดเผยไตรมาสแรกของช่วงปลายปี 2561 ให้ได้เห็นกัน

“สำหรับการเปรียบเทียบอนาคตใหม่กับพรรคนายสุเทพนั้น พรรคอนาคตใหม่มีความท้าทายมากพอแล้ว คงไม่มีเวลาไปสนใจพรรคนายสุเทพ ตนอยากทำอนาคตใหม่ให้ดีที่สุด มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเป็นตัวอย่างพรรคการเมือง สำหรับเกณฑ์การรับบริจาคจากทุนใหญ่นั้น จะยึดเกณฑ์ไปตามกฎหมาย ถ้าบริษัทไหนมีแนวทางการทำธุรกิจที่ขัดกับนโยบายของพรรค และขัดต่อความรู้สึกของประชาชน ก็ไม่อาจรับไว้ได้” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการทำกิจกรรมกรุงเทพขยับของพรรคอนาคตใหม่ครั้งแรกในเขตเมืองหลวง ย่านบางรัก-เยาวราช ใช้เวลาการเดินเท้าราว 3 ชั่วโมงนั้น เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่พบการขัดขวางหรือต่อต้านแต่อย่างใด

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์