“บิ๊กตู่” ตอกกลับ ส.นักข่าว ไม่ต้องมาสัมภาษณ์อีก ยันทำเพื่อชาติ ไม่มีใครทำอะไรได้นอกจากตายเอง

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แฟ้มภาพ

“บิ๊กตู่’ ตอกกลับนายกสมาคมนักข่าวฯ หลังวิจารณ์ รบ. ให้ทำข่าวพีอาร์ รมต. ลงพื้นที่ งอนต่อไปจะไม่สัมภาษณ์แล้ว ขอพูดคนเดียว ยันไม่มีใครมาทำอะไรได้ นอกจากตายเอง แถมเอาอะไรไปไม่ได้แม้แต่เหรียญบาทยัดปาก โวเหมือนเม่น ยิ่งโตยิ่งแกร่ง

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2560 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมงาน โดยนายกฯได้มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2560 จำนวนทั้งสิ้น 9 ประเภท

นายกฯ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับรัฐวิสาหกิจที่ขับเคลื่อนประเทศมาโดยตลอด และต้องทำให้ก้าวหน้าต่อไปโดยเร็ว ทุกคนทราบดีถึงความสำคัญของรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นผู้ได้รับรางวัลในวันนี้ ขอให้นำไปใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม ตอบสนองการเมือง ตอบสนองนโยบายจากรัฐบาล ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทุกด้าน ที่มีส่วนช่วยยกระดับจัดการองค์กรให้เป็นที่ยอมรับในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ต้องพยายามให้มีภาคเอกชนเข้ามาเสริมงบประมาณการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น เพราะอนาคตของไทย อนาคตของโลกใบนี้ รัฐบาลไม่สามารถแบกรับภาระได้มากอีกต่อไป เป็นหน้าที่ทุกคนต้องหาหนทางในการปฏิบัติที่เหมาะสม และต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เพราะเป็นการทำงานต่อเนื่องมาถึง 3 ปี ต้องขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้าให้ได้ ต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ สร้างความเข้มแข็งต่ออนาคตประเทศ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นวันนี้คือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง สร้างประโยชน์ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกฝ่าย คำนึงถึงเป้าหมาย บริการประชาชน และสร้างรายได้ให้กับประเทศ

“ปัญหาที่ประเทศยังติดขัดอยู่คือความคิดคนที่ไม่เปลี่ยนมากนัก ปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจการทำงานของรัฐบาล ไม่มีใครช่วยได้ นอกจากต้องช่วยตัวเอง เพราะวันนี้ได้ยินนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สื่อไม่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้รัฐบาล แต่มีหน้าที่ในการทำประโยชน์สาธารณะ ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้ทำเพื่อใคร มีประโยชน์หรือไม่ แทบไม่รู้ตัว แต่ไม่ได้คาดหวังอะไรกับท่านอยู่แล้ว อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องตามสัมภาษณ์ผมอีกต่อไป ผมจะพูดของผม พูดกับพวกเรา คงไม่มีใครเบื่อที่จะฟัง จะพูดไปเรื่อย ๆ ต้องการให้ประเทศไปข้างหน้า ใครจะเกลียดก็ช่าง ไม่มีอะไรทำให้ผมตายได้หรอก นอกจากผมจะตายเอง เส้นโลหิตแตกตายเอง ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้ เหรียญบาทสักเหรียญ ลูกหลานไม่ได้เอายัดปาก ผมได้พูดทุกอย่าง ไม่ต้องโกหกใคร ไม่ต้องอ้อมแอ้ม แต่ทุกคนต้องเคลียร์เรื่องผลประโยชน์ให้ได้ ต้องเปิดเผย ต้องพูดทำความเข้าใจ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างความเข้าใจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้รับความเชื่อถือจากต่างประเทศมากพอสมควร เพราะทำตามสัญญา ทำถูกต้องชอบธรรม ลดความไม่โปร่งใสได้มาก นี่คือสิ่งที่ต่างประเทศพูดกับตน พวกเขาพอใจ เป็นสิ่งที่อยากให้ทุกคนภูมิใจ นอกจากรางวัลแล้ว ให้มีกำลังใจสู้รบต่อกับเรื่องแบบเมื่อกี้ แม้จะท้อ แต่ท้อไม่ได้ เขาเรียกว่า ยิ่งตียิ่งโต เพราะมันสู้ จะทำอะไรต้องสร้างความเข้าใจ ต้องป้องกันตัวเองให้ได้ ทุกคนต้องช่วยตรงนี้ ตนไม่อาจแก้ตัวให้ได้มากนัก เพราะอยู่ในฐานะรัฐบาล ถืออำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ให้ลองนึกถึงเม่น ตัวนิดเดียว แต่ใครเข้าใกล้ไม่ได้ เพราะพองขน ดังนั้นต้องสร้างมาตรการป้องกันตัวเอง ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่องค์กรต้องทำตัวแบบนี้ ปกป้องตัวเองให้ได้ ปกป้องรัฐบาลให้ได้ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คนไทยเคยชินกับการแสดงความเห็นแบบไม่มีขีดจำกัด ทั้งในสื่อ หรือในโซเชียลมีเดีย ทั้งที่จริงควรมีพื้นฐานหลักการ ถ้ามองแค่ว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ เรื่องรายรับรายจ่าย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น มีการโกงกิน ก็วนอยู่ที่เดิม ก็เน่าอยู่ที่เดิม ทั้งที่ยังไม่ใช่ ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ ทำแผนยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน เชื่อมโยงทั้งภูมิภาค จังหวัด และท้องถิ่นให้ได้

“บิ๊กตู่” ติงมัวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจนประชาชนลืมต้นเหตุรัฐบาลเดิม วอนอย่าว่าทหารโง่เพราะเป็นรุ่นใหม่แล้ว พ้อด่ามากจนรองนายกฯป่วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าว่า การปฏิรูปประเทศที่หลายคนมองว่าวันนี้บ้านเมืองอย่างปกติสุขไม่มีการประท้วงจนลืมในสิ่งที่รัฐบาลทำมากกว่า 3 ปี ลืมว่าปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากที่ไหนรัฐบาลต้องแก้กี่ร้อยเรื่องหรือแก้กฎหมายกี่ฉบับ หลายคนยังไม่เข้าใจเพราะเราห่างการให้ความรู้ประชาชนมายาวนาน เพราะมัวแต่ทำมัวแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่ได้สร้างหลักคิดให้สังคมเข้มแข็งเพื่อรองรับสิ่งที่รัฐบาลกำลังปฏิรูป นี่ถือเป็นความผิดของทุกคน เพราะเราทุกคนมีส่วนในการเลือกรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ตนก็ด้วย แต่วันนี้ตนพูดได้เพราะพวกท่านไม่ได้เลือกตนเข้ามา แต่ถ้าเลือกได้คงเลือกให้ออกไปใช่หรือไม่ แต่ถึงอย่างไรตนก็จะอยู่ เฉพาะตอนนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการปฏิรูปประเทศเราต้องรู้ว่าเป้าหมายเราคืออะไร ปัญหาอยู่ตรงไหนและวิธีการแก้ปัญหาต้องทำด้วยวิธีใดเราต้องช่วยกันคิดให้รอบคอบ รวมถึงต้องสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้น

“ในสัปดาห์หน้าผมจะไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรนอกสถานที่ที่จ.นครราชสีมา เราต้องไปดูว่าอนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร ศักยภาพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างไร มีจุดอ่อนและจุดแข็งตรงไหน มีความเสี่ยงและวิกฤตอะไร รวมถึงไปรับฟังคนในพื้นที่ว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งส่วนนี้รัฐวิสาหกิจมีส่วนอย่างมากในการทำงานตรงนี้ เพราะเราต้องทำทุกภาค จากนี้ไปผมจะไปประชุมครม.ทุกภาคทั้งประเทศ” นายกฯ กล่าว

“วันนี้ในการตั้งคณะกรรมการรัฐวิสากิจไม่ทราบว่าใครมีปัญหาหรือไม่ส่วนคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ก็อยู่จนครบวาระและคัดสรรเข้ามาใหม่ ส่วนทหารเขาก็ชอบว่าว่าไม่ค่อยฉลาด เขาก็ว่าเราเยอะผมก็ต้องฟังด้วย เพราะผมเป็นทหารเก่า ตอนผมไปเรียนเพิ่มหลักสูตรไอโอดีมา 2-3 วัน ฟังเขารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะว่าหลักสูตรยากสำหรับทหารแต่ผมก็พยายาม ก็ถือว่าทหารไม่โง่นัก เว้นแต่บางคนที่ชอบแกล้งโง่ ส่วนใหญ่ทหารฉลาดจะตาย แต่ด้วยระเบียบวินัย ทำให้ทหารไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นมากนัก ในวันนี้ทหารเป็นทหารรุ่นใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อบรรดาที่ออกมาด่าทหารทุกวัน ด่าจนรองนายกฯของผมป่วยแล้ว” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวต่อว่า เรื่องความเหลื่อมล้ำในประเทศที่ผ่านมาลำดับแรกกับลำดับสุดท้ายของแต่ละจังหวัดในประเทศมีรายได้แตกต่างกันมาก บางจังหวัดรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานการประเมินในทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่จังหวัดนั้นมีศักยภาพเพียงพอ แสดงว่าขึ้นอยู่กับการบริหารยังไม่ทั่วถึงและไม่เข้าใจว่าจังหวัดนั้นมีอะไรดีที่จะมายกระดับ เราต้องเข้าไปสร้างงานสร้างอาชีพให้เกิดรายได้รวมถึงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

“นายกฯ” รับกลุ้มใจปัญหารถเมล์

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีปัญหาเรื่องขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรื่องรถเมล์สัญญากับตนไว้แล้วนะ และตอนนี้ก็มีเรื่องกันอีกแล้ว ตนก็กลุ้มใจเหมือนกัน มันจะพากันไปพังทั้งหมดนั้นเหละ เดี่ยวขึ้นทะเบียน เดี๋ยวถอนทะเบียน และถ้าสังคมยังเป็นอย่างนี้อยู่ มันก็ทำไม่ได้หรอก ทั้งหมดที่เราทำ เพราะเราจำเป็นที่ต้องมาทำอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นประเทศก็ไปไม่ได้หรอก

ที่มา มติชนออนไลน์