ประชาธิปัตย์ประชุมใหญ่ “มาร์ค” นั่งหัวหน้าพรรคอีกสมัย “ศุภชัย ศรีหล้า” นั่งรองหน.พรรค

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 พ.ศ.2561 ที่เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ จำนวน 41 คน ตามข้อบังคับพรรคฯใหม่ พร้อมกับเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 11 คน โดยมีองค์ประชุมจำนวน 304 คน ประกอบด้วย กก.บห.ชุดปัจจุบัน อดีต กก.บห. อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. อดีตประธานสาขาพรรครวมถึงสมาชิกพรรคที่เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีสมาชิกพรรคอีกจำนวนหนึ่งมาเป็นผู้สังเกตการณ์ สำหรับบรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกพรรคทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 07.00 น. ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หมายเลข 2 พร้อมด้วยอดีต ส.ส.ในทีมเพื่อนหมอวรงค์ รวมถึงนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หมายเลข 3 มาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคที่ใช้ชื่อว่า “นิวเด็ม” (New Dem) ก้าวนอกกรอบ” ได้มาร่วมงานนี้เพื่อประชาสัมพันธ์งานเปิดตัวสมาชิกและแนวนโยบายจากคนรุ่นใหม่ ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคฯ เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และดำเนินการประชุมใหญ่ โดยแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบผลการหยั่งเสียงลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุด จากนั้นที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งของพรรค 5 คน มาดูแลการเลือกตั้งในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่การลงคะแนนเลือกตั้งในแต่ละตำแหน่งนั้น ปชป.ได้นำเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาใช้ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พรรคใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาดำเนินการ

โดยเริ่มที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ ขณะที่นายสงกรานต์ ตั้งจิตติสุทธิภากร อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นพ.วรงค์ แต่ทางด้าน นพ.วรงค์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า วันนี้ตนใส่เสื้อที่ไม่เหมือนใคร แต่ที่หน้าอกเสื้อของตนมีลายเซ็นของคนที่ชื่อ ”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เพื่อมาแสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ และคะแนน 67,505 คะแนน ที่สมาชิกเลือกมา จะถูกบันทึกว่านายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนแรกที่มาจากประชาชน ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคจะนำพรรคของเราไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ พร้อมขอขอบคุณจากหัวใจที่มาสมาชิกเลือกตน 57,689 คะแนน แม้จะไม่สูงเพียงพอ แต่มีน้ำหนักพอที่หัวหน้าพรรคใหม่จะพิจารณา เพราะนั่นคือเสียงของสมาชิกอีกส่วนหนึ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรค

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ในช่วงการหาเสียง 1 เดือนที่ผ่านมา พวกเราต่อสู้กันอย่างเต็มที่ บางสิ่งบางอย่างที่ตนทำไปอาจทำให้ไม่สบายใจหรือล้ำเส้นไปบ้าง ตนต้องขอโทษจากใจ รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านที่ตนแข่งขันกับท่าน ก็ต้องขอโทษอีกครั้ง และตลอดเวลา 1 เดือนเศษนี้ ได้พิสูจน์หัวใจของทุกคน ซึ่งหลายคนขึ้นมาบนขบวนรถไฟแล้วคิดจะลงกลางทาง แต่เขาก็ไม่ลง ยังอยู่ร่วมขบวนด้วยกันมาตลอด ดังนั้นตนขอฝากหัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย เพราะทุกคนมีพละกำลัง และพื้นที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่มีการต่อสู้กันมาก จึงขอให้เสนอชื่อนายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคทั่วไปด้วย เนื่องจากพื้นที่อื่นมี ส.ส.มาก แต่ในภาคนี้เรามี ส.ส.น้อยมาก เราจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์เพื่อต่อสู้เขา ซึ่งตนเชื่อว่าเพื่อนตนคนนี้มีความสามารถที่จะทำกลยุทธ์ในภาคอีสาน

“พรรคประชาธิปัตย์ คือบ้านของพวกเรา มีประตูบานใหญ่ 4 บาน ผมอยากพูดกับพวกเราทุกคนว่าวันนี้ภูมิใจในพรรคฯ ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ดีที่สุดในประเทศนี้ คนที่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนทั่วประเทศ พวกเราต้องเคารพมติมหาชน ผมเคารพ และต้องเป็นบรรทัดฐานอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ผมจึงขอถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค” นพ.วรงค์ กล่าว

ต่อมา นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะ กกต.พรรค กล่าวว่า เราจะเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการสร้างมาตรฐานของการเมืองไทย และพรรคจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด เราต้องรักษาความเป็นประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ทำตามวิธีของพรรคอื่น ไม่ใช่พรรคอื่นทำมิชอบ โกงคะแนนบ้าง ซื้อสิทธิ์ขายเสียงบ้าง แล้วเราต้องทำตามเขา แต่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นมาตรฐาน มิฉะนั้นถ้าไปทำตามเขา ก็ไม่ต้องมีพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป การหยั่งเสียงเมื่อจบแล้ว เราต้องรักกันกอดกันรวมเป็นหนึ่งเดียว อย่างนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ชนะเท่านั้น

ขณะที่นายชาลี เจริญสุข สมาชิกพรรค เสนอชื่อนายอลงกรณ์ แต่นายอลงกรณ์แจ้งขอถอนตัวเช่นกัน พร้อมกล่าวว่า ตนจากพรรคประชาธิปัตย์ไป 4 ปี การกลับมาครั้งนี้มีวิบากกรรมมากจริงๆ ตนเคยประกาศที่จ.เพชรบุรี ว่าตนเกิดที่พรรคนี้ ตายที่พรรคนี้ เพราะกว่าจะได้เป็น ส.ส.เพชรบุรี ก็วิบากกรรมเยอะ แต่ในที่สุดก็ปักธงได้ สามารถครองที่นั่งได้ทุกที่นั่งในเพชรบุรี แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์และกรรมการบริหารพรรค ริเริ่มระบบไพรมารี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการเมือง และ 72 ปีของพรรคฯ ตนจึงกลับมาเพื่อสนับสนุนจุดเปลี่ยนแปลงของพรรค เพราะตนเชื่อว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ เพราะมีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่จะสร้างประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง ต่อมาที่ประชุมให้สมาชิกเข้าคูหาเพื่อลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค โดยมีผู้ใช้สิทธิ์ 259 คน นายอภิสิทธิ์ได้รับเสียงสนับสนุน 96.77 เปอร์เซ็นต์

 

ที่มา : มติชนออนไลน์