“บิ๊กตู่” พร้อมผู้นำนับร้อยประเทศ ตบเท้าร่วมงานรำลึกครบรอบ100ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1

“บิ๊กตู่” พร้อมผู้นำนานาชาติกว่า100 ประเทศ ตบเท้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 หวังสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อยู่ระหว่างเยือนกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2561 เพื่อเข้าร่วมพิธีวันรำลึกการครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 และพิธีเปิดการประชุม Paris Peace Forum หรือสันติภาพปารีส ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เดินทางถึงท่าอากาศยานชาร์ลส์ เดอ โกล กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยอุปทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส มาต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมายังโรงแรมเลอ รัวยาล มงโซ ราฟเฟิล ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก โดยมีคนไทยในฝรั่งเศสมาให้การต้อนรับ มอบของที่ระลึกให้นายกรัฐมนตรีและภริยา โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับผู้ที่มารอต้อนรับเป็นที่ระลึก

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังบริเวณประตูชัยเพื่อร่วมพิธีรำลึกการครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้วันที่ 11 เดือน 11 ค.ศ. 2018 ถือเป็นวันครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยในช่วงสงคราม ประเทศไทย หรือสยาม (ในขณะนั้น) ได้ส่งทหารอาสาไปร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสมรภูมิยุโรป ในสงครามโลกครั้งที่ 1 นับเป็น 1 ใน 3 ประเทศเอเชียที่ประกาศร่วมสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร โดยสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นยืดเยื้อยาวนานถึง 4 ปี จนกระทั่งเยอรมนีได้ติดต่อฝ่ายสัมพันธมิตรขอเจรจาสงบศึก ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสงบศึกบนรถไฟ ณ เมืองคองเปียน ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 (พ.ศ 2461) จึงถือให้ทุกวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปี เป็นวันยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ภายหลังสงครามสิ้นสุด สยามได้ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งประชาคมโลก ได้เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติ (The League of Nations) เมื่อปี ค.ศ. 1919 (พ.ศ. 2462) ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาสำคัญในการฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยและเสรีภาพทางการค้ากับตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเปิดทางสู่การแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่าง ๆ โดยในพิธีรำลึกจะประกอบด้วยพิธีสำคัญ อาทิ การตรวจแถวธงและการตรวจแถวทหาร การขานนามผู้สละชีวิตเพื่อฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 การยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรี การเติมน้ำมันไฟบริเวณหลุมศพทหารนิรนามตรงกลางประตูชัย โดยนายเอมมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยผู้นำแตะไหล่ของผู้นั่งข้างไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเติมน้ำมันไฟร่วมกัน การวางพวงมาลาโดยประธานาธิบดี

อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสได้เชิญผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาลของประเทศที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมถึงหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งหมดกว่า 120 คนเข้าร่วมพิธี เช่น กัมพูชา เวียดนาม อินเดีย กาตาร์ เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น เพื่อให้ทุกประเทศมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธีนายกรัฐมนตรีของไทยและผู้นำประเทศต่างๆ จะเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์