เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำหรับการประชุม กกต.วันนี้จะมีการพิจารณาคำร้องคัดค้านขององค์กรที่ กกต.ไม่ประกาศชื่อให้มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยมีองค์กรที่ยื่นมาทั้งสิ้น 10 องค์กร ซึ่งข้อโต้แย้งขององค์กรที่ กกต.ไม่ประกาศชื่อจะเกี่ยวกับที่มาขององค์กรว่าเป็นองค์กรที่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายหรือไม่ และเป็นองค์กรที่แสวงหากำไรหรือไม่ โดยเฉพาะองค์กรประเภทสหกรณ์ที่ กกต.ได้ตัดสิทธิไปก็ได้มีการร้องคัดค้านมาด้วย และคิดว่าน่าจะหาข้อยุติได้ในการพิจารณาของ กกต.ไม่น่าจะถึงขั้นต้องฟ้องศาล เพราะหากองค์กรไหนเข้าข่ายที่กฎหมายให้โอกาส กกต.ก็จะคืนสิทธิให้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า ถ้าเป็นข่าว กกต.ก็ตรวจสอบอยู่แล้ว อะไรที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง กกต.ต้องติดตามเนื่องจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องไหนถึงขั้นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องดูว่าเข้าข่ายครอบงำหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตามข้อเท็จจริงที่น่าจะมีมาก แต่จะถามว่าพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงในลักษณะใดที่จะเรียกว่าเข้าข่ายครอบงำ คงระบุตายตัวได้ยาก ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและการรวบรวมหลักฐานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีการตกลงกับพรรคสำรองในเรื่องการแบ่งเขตส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจะเข้าข่ายเป็นความผิดหรือไม่ เลขา กกต.กล่าวว่า อาจเป็นการใช้วิธีหลบเพราะประเมินแล้วว่าเขตนั้นถ้าส่งผู้สมัครของพรรคจะได้รับคะแนนน้อย ซึ่งถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นเทคนิคของแต่ละพรรค แต่ต้องไม่เข้าข่ายพรรคการเมืองไปครอบงำพรรคอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายทันที