เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่อาคารราชพฤกษ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ถนนเสรีไทย ผศ.ดร.ณพงศ์ นพเกตุ อดีตผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แถลงลาออกจากตำแหน่งเพื่อร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อย่างเป็นทางการว่า ได้ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.นิด้าโพล ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เหตุผลคือ 1.เพื่อไม่ให้เกิดภาพของความเป็นห่วงเป็นใยเรื่องประโยชน์ทับซ้อนว่าอาจจะเป็นโพลที่เกี่ยวพันกับพรรคใดพรรคหนึ่ง 2.เพื่อให้นิด้าโพลสามารถเป็นสถาบัน เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือของสังคมอย่างที่เป็นเสมอมา 3.ตนมีงานที่ต้องทำต่อไป คือประสงค์เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตรงที่ตนเองและประชาชนที่ติดตามนิด้าโพลจะได้มีความสบายใจ
“ได้ประชุมและพูดคุยกันโดยไม่ได้มีความกดดันใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ผมสมัครใจลาออก เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องต่อสังคมและคนทำหน้าที่สาธารณะ” ผศ.ดร.ณพงศ์กล่าว และว่า ขณะนี้ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.นิด้าโพลแล้ว ส่วนประเด็นในมหาวิทยาลัยขณะนี้ยังเป็นอาจารย์อยู่ ต้องรอการตัดสินใจจริงๆ ว่าจะมีพื้นที่ทำงานทางการเมืองจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จะทำงานเชิงนโยบาย เชิงความคิดในสถาบันทางการศึกษา ทั้งนี้ อาจเป็นกรณีพิเศษ เช่น การเป็นผู้บริหารในมหาวิทยาลัยและเป็น สนช.ด้วย ขณะนี้ไม่ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย ตรงนี้อยู่ที่ระเบียบของสถาบันนั้นๆ
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
เมื่อถามว่า สมัครใจเข้าร่วม พปชร.หรือได้รับการทาบทามจากพรรค ผศ.ดร.ณพงศ์กล่าวว่า จริงๆ เดินเข้าไปเอง ตัดสินใจเข้าไปเอง เนื่องจากติดตามการทำงานของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และทีมงานมาโดยตลอด และผูกพันกับแนวคิดและยุทธศาสตร์ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมานานแล้ว คิดว่าท่านเป็นคนทุ่มเทให้กับประเทศไทยเยอะ
“ผมคิดว่า 4 รมต.เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนกล้าหาญ กล้าทำ และพร้อมจะเดินหน้าประเทศไทย ผมคิดว่าการเมืองต้องมีคนรุ่นใหม่ที่กล้าหาญออกมาทำงาน”
ส่วนความรู้ทางวิชาการที่จะนำไปต่อยอดนโยบายนั้น ผศ.ดร.ณพงศ์กล่าวว่า ต่อยอดเรื่องสมาร์ทซิตี้ เรื่องการพัฒนาเมืองภูมิภาค เรื่องการกระจายความแออัดออกจาก กทม. และเรื่องระบบขนส่งมวลชน น่าจะเป็นเรื่องหลัก และปัจจัยสำคัญคือการกระจายโอกาสสู่หัวเมืองต่างๆ ที่ไม่ใช่ กทม. ตลอดจนการฟื้นฟูให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่อีกครั้ง
เมื่อถามว่า การสังกัดพรรคจะทำให้งานทางวิชาการหรือความคิดเห็นก่อนหน้านี้ถูกตั้งคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือหรือไม่ ผศ.ดร.ณพงศ์กล่าวว่า วิชาการเป็นหลักการที่ปฏิบัติได้ ซึ่งการลงสู่สนามการเมืองคือการเอาวิชาการมาสู่การปฏิบัติที่แท้จริง เรื่องความน่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อถือ สังคมเป็นผู้ดูและเป็นผู้ตัดสินในระยะยาว
ผศ.ดร.ณพงศ์กล่าวต่อว่า ส่วนการจะไปทำโพลของพรรคหรือไม่นั้น ยังไม่ได้รับโจทย์ เชื่อว่าพรรคมีมืออาชีพอยู่แล้ว ส่วนจะทำหน้าที่ใด หรือสังกัด ส.ส.เขต หรือบัญชีรายชื่อ เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ที่จะมีการพูดกับพรรค ในส่วนของนิด้า วันที่ 16 พ.ย. ก็จะมีการแถลงเรื่องการตั้งคณะทำงาน โดยมีอธิการบดี รองอธิการบดี และอาจารย์หลายคณะมาช่วยกันทำโพลของนิด้า ซึ่งรับรองได้ว่าไม่มีผู้บริหารคนไหนที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลโพลได้
