แม้ว่ารัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะทุ่มงบประมาณให้แก่กระทรวงกลาโหมนับแสนล้านบาทในการเพิ่มแสนยานุภาพทางการทหารเพื่อป้องกันอธิปไตยของประเทศ ตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557
ทั้งการจัดซื้อรถยานเกราะ และเรือดำน้ำจากจีน มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท เครื่องบินขับไล่จากรัสเซีย เครื่องบินขับไล่ฝึกหัดจากเกาหลี ขีปนาวุธจากสหรัฐ
หากยังมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้เผชิญหน้าในรูปแบบสงครามทางทหาร หากยังแฝงเร้นภายใต้ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น ภัยก่อการร้ายข้ามประเทศ-ข้ามโลก การก่อการร้ายทางไซเบอร์ที่ยิ่งกว่าการจารกรรมข้อมูล
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ดังนั้นในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. สั่งการในที่ประชุมให้ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ไปพิจารณา “อัพเกรด” ให้ “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” หรือ กอ.รมน. ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ “สำนักนายกรัฐมนตรี” ขึ้นเป็น “หน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ” ลักษณะคล้ายกับ “Homeland Security” ของสหรัฐ ที่มีจ็อบเดสคริปชั่นป้องกันแผ่นดินสหรัฐจากการก่อการร้าย อุบัติภัยโดยฝีมือมนุษย์ และตลอดจนภัยพิบัติต่าง ๆ
เช่นเดียวกับสิ่งที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องการ ให้หน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของไทย เป็นหน่วยงานกลางด้านความมั่นคงที่สามารถควบคุมกำกับดูแลการแก้ไขปัญหา ภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่ ภัยธรรมชาติ ตลอดจนภัยที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งของกลุ่มองค์กรต่าง ๆ
รวมถึงสถานการณ์ในประเทศที่เกิดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างเบ็ดเสร็จและครอบคลุมรอบด้านรวมทั้งสามารถประสานการดำเนินงานของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงต่าง ๆ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้เหมาะสมสอดคล้องกัน
ในจังหวะที่โลกกำลังหวาดกลัวภัยสงครามการก่อการร้ายจากตะวันออกกลางที่แผ่ขยายไปถึงฝั่งยุโรปและเอเชีย ขณะเดียวกันโลกยังหวาดหวั่นกับการทดสอบอาวุธสงครามของเกาหลีเหนือ อาจเป็นที่มาของการตั้ง Homeland Security และอาจกลายเป็น “กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ” ถูกหยิบยกขึ้นในวงประชุม ครม.