“บิ๊กตู่” ไหว้ย่าโม – ศาลเจ้าพ่อไฟ ก่อนเยี่ยมประชาชนชาวโคราช

เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 21 สิงหาคม ที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางอรรชกา ศรีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 21 – 22 สิงหาคม โดยได้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

จากนั้นได้เดินลอดซุ้มประตูชุมพล และสักการะศาลเจ้าพ่อไฟ (ฮ่วยติ) ก่อนที่จะเดินทักทายประชาชน ที่อยู่บริเวณรอบอนุสาวรีย์ฯ ซึ่งประชาชนที่มาให้กำลังต่างตะโกน “รักลุงตู่” ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ โดยกล่าวว่า “บ้านเมืองอยู่กับทุกคน คนอีสานน่ารักอยู่แล้วเดี๋ยวผมจะทำงานให้ไม่ต้องห่วง”

ขณะเดียวกันมีประชาชน ได้มอบดอกกุหลาบสีขาว เพื่อให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นอย่างละเอียดตามมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายตรวจดูสิ่งแปลกปลอม และป้ายไม่พึงประสงค์ด้วย

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี หน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัย มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน 2,000 นาย กระจายกำลังทุกจุดที่นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ลงปฏิบัติภารกิจ รวมถึงจุดสูงข่มต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์อัลพาร์ทสีขาว ทะเบียน กย 1111

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นประยุทธ์ เดินทางไปที่ศาลาอเนกประสงค์ สวนสาธารณะเทศบาลตำบลหัวทะเล เพื่อพบปะประชาชน พร้อมมอบเอกสารที่ดินทำกิน ก่อนหารือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ได้มีการปรับกลยุทธ์ในการพบปะประชาชน จากที่ปกตินายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้บรรยายและมอบนโยบายต่างๆ แต่ในครั้งนี้ได้ใช้วิธีให้ชาวบ้านได้เสนอความเดือดร้อนและตั้งคำถาม จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตอบคำถามต่างๆ รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

 


ที่มา : มติชนออนไลน์