“ไทยศรีวิไลย์” ยันไม่เสนอชื่อ“บิ๊กตู่”เป็นนายกฯต่อ ชี้เห็นผลงาน 4 ปีครึ่งแล้ว

วันนี้ 22 พฤศจิกายน 2561 พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค,นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล รองหัวหน้าพรรค,นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ เลขาธิการพรรค,นางสาวภคอร จันทรคณา โฆษกพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา รักษาการ รองโฆษกพรรค และ นายศยุน ชัยปัญญา กรรมการบริหารพรรค จะเดินทางมาฟังคำชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจกรรมแก่พรรคการเมือง ครั้งที่ 4/2561 เรื่อง การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง จัดโดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. เพื่อให้ กกต.ขยายเวลาพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง ถึง 11 ธันวาคม 2561 อีกทั้งขยายเวลาสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรถึงวันรับสมัครเลือกตั้งนั้น ส่วนตัวมองว่าการดำเนินการของ คสช.ดูแล้วอาจจะมีเจตนาพิเศษ เพราะเดิมทีแล้ว กกต.จะประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว เพราะดำเนินการเสร็จแล้ว แต่พอมีคำสั่ง คสช. มาจึงทำให้ กตต.ชะงักงันหรือมึน ตามองไม่ค่อยเห็น

ตนคิดว่า คสช.หรือ พรรคที่ คสช.อาจจะหนุนหลังอยู่จะยังไม่พร้อม หรือผลสำรวจคะแนนนิยมพรรคพลังประชารัฐและพวกพรรคหนุนเผด็จการ ออกมาแล้วอาจจะได้จำนวนที่นั่งต่ำกว่าที่คาดการไว้มาก อาจทำให้เสียง ส.ส.ไม่พอ 250 เสียง หรือได้เพียงแค่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง ทั้งๆที่งบประมาณแผ่นดินปี 60-62 มีคำว่า ประชารัฐ แทบทั้งสิ้นนี่ก็เอาเปรียบพรรคอื่นแล้ว บวกกับช่วงนี้รัฐบาลมีนโยบายใช้งบประมาณแผ่นดินเอาใจคนแก่เพิ่มเงินผู้สูงอายุและประชาชน นับไม่ถ้วนรายการ ล้วนเป็นการใช้เงินรัฐในอนาคตหรือกู้มาโดยไม่คำนึงถึงการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนในระยะยาว และเราไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนเลือกตั้งออกไป กกต.ควรประกาศให้ชัดเจนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562

เมื่อถามว่า หลายพรรคการเมืองเปิดตัวรายชื่อบุคคลที่จะถูกเสนอชื่อท้าชิงเป็นนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอะไร เพราะส่วนตัวไม่ได้ไปแข่งขันอะไรกับใคร และขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดมาทาบทาม แม้ตนจะสนใจการเมืองแต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะร่วมกับพรรคใด ได้แต่รับฟังที่หลายฝ่ายพูดไปก่อน ซึ่งหลายพรรคได้มีการแสดงนโยบายต่างๆของตนเองออกมา แต่ส่วนตัวก็จะต้องทบทวนว่าจริงและสามารถทำได้หรือไม่ เพราะว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงทราบว่าสิ่งที่หลายพรรคพูดบางอย่างทำได้ ขณะที่บางอย่างและส่วนใหญ่ก็ทำไม่ได้

“ส่วนตัวยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปร่วมกับพรรคใด และไม่มีหลักเกณฑ์ใดทั้งสิ้น ผมไม่จำเป็นต้องบอกใคร หากมีการเชิญก็จะเชิญมายังผมเอง หากเชิญมาหลายพรรคก็ต้องตัดสินใจเอง เพราะถ้าถามพรรคไทยศรีวิไลย์และสมาชิกทุกคน คงต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีทาง ไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัวสมองเลย เห็นผลงานแล้วกว่า 4 ปี ครึ่ง สร้างหนี้สาธารณะกับประเทศกว่า 1.2 ล้านล้านบาท ทำประชาชนกว่า 25 ล้านคน ได้บัตรคนจน เป็นคนจนเต็มขั้น ปล่อยและส่งเสริมให้เกิดระบบทุนครอบงำธุรกิจทุกประเภท ทำให้ประชาชนแทบไม่มีจะกิน เพราะรัฐมนตรีพาณิชย์ มัวไปเล่นการเมืองจนลืมแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร ฝีมือการบริหารก็คล้ายๆ พอกันกับเผด็จการรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งแล้วเข้ามาโกงจำนำข้าว ตนคิดว่าตอนนี้ประชาชนรู้หมดแล้ว แล้วเขารู้ว่าควรจะเลือกผู้บริหารประเทศแบบใดในยุคศิวิไลซ์”นายมงคลกิตติ์ กล่าว


ที่มา มติชนออนไลน์