อดีตนักเลือกตั้งที่เคยปักหลักเป็นผู้แทนราษฎร เป็นไพร่พลการเมืองให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ในเสื้อคลุมไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย
ที่สุดก็กระจัดกระจายแบบสลับขั้วอำนาจ ไปอยู่พรรคอำนาจพิเศษ อย่าง “พลังประชารัฐ” (พปชร.) เป็นทิวแถว ขุนพลระดับ “บิ๊กเนม” ที่ระเห็จออกจากเพื่อไทย ล้วนเป็น “บ้านใหญ่” ในวงการเมือง
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
ตัวอย่าง เช่น “สันติ พร้อมพัฒน์” ซุ้มบ้านใหญ่ จ.เพชรบูรณ์ “วราเทพ รัตนากร” หัวหน้ากลุ่ม ส.ส.กำแพงเพชร เพื่อไทย แตกตัวออกจากวังบัวบานของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” นำ ส.ส.เลย ซบ พปชร. ยกจังหวัด “สุพล ฟองงาม” พาลูกทีมอุบลราชธานีบางส่วน ไปซบตัก พปชร. แกนนำทุกคนเป็นอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลเครือข่ายทักษิณทั้งสิ้น
ส่วน “อำนวย คลังผา” อดีต ส.ส.ลพบุรี แม้ไม่จัดอยู่ในระนาบ “บิ๊กเนม” รัฐมนตรี แต่ก็เป็นถึงประธานวิปรัฐบาลในยุคนิติบัญญัติเพื่อไทย ไปสวมเสื้อคลุมพลังประชารัฐด้วยอีกคน พร้อมทิ้ง 1 สาเหตุที่ย้ายพรรค ทำให้ระดับแกนนำสะอึก เพราะไม่เคยอยู่ในสายตา
“อำนวย” บอกว่า เขาอยู่มาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย ตอนที่ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ที่มี “เนวิน ชิดชอบ” เป็นแกนนำแตกตัวไปตั้งพรรคภูมิใจไทย พร้อมทิ้งวลีเด็ดการเมือง “จบแล้วครับนาย” วันนั้น เคยชวน “อำนวย” ไปร่วมขบวน แลกกับ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี เขาปฏิเสธ
แต่เหตุที่ทำให้พลิกตัว 180 องศา ไปอยู่ พปชร. เพราะ…
“ผมอยู่ตั้งแต่เพื่อไทย การที่ไปตั้งพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อธรรมผมไม่รู้เลย ผมอยู่เพื่อไทยมาตลอด กรรมการบริหารพรรคน่าจะบอกว่าเวลานี้จะตั้งพรรคนู้นพรรคนี้ ให้เรารู้บ้าง อยู่ ๆ ก็ตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ไม่เห็นด้วยที่จะขยับ หากไป ต้องไปให้ทั้งพรรค ผมเห็นว่าเป็นการปล่อยทิ้ง เพราะผมไม่รู้เรื่องเลย เหมือนเวลานี้ให้เราอยู่ในบ้านเก่า ๆ ผุ ๆ อยู่ ในฐานะต้องอยู่พรรคเดียวกันต้องบอกกันให้รู้ตัว จะได้ช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรกัน เวลานี้เป็นแกนนำส่วนบนคิดกันเอง ผมไม่พอใจตรงนี้ หากไม่ให้ความสำคัญ ต้องหาที่อยู่ใหม่”
เขาประชุมกับหัวคะแนน-ทีมงาน อยู่ 2 วัน ก่อนไป พปชร.เต็มตัว
การถีบตัวทิ้งเพื่อไทย ทำให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรค ยอมรับว่า สถานการณ์ในเพื่อไทยเวลานี้ ตกเป็นฝ่าย “ตั้งรับ”
“เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ยอมรับว่าใจหาย แต่เมื่อเขาดูดกันเช่นนี้ เราก็ต้องตั้งรับ ซึ่งในส่วนของผู้สมัครที่จะมาแทนคนที่ออกไปนั้นมีแล้ว และเท่าที่ได้ยินมา คนที่ออกไปส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องคดี ก็เป็นเรื่องที่เราเห็นใจ แต่เมื่อเขาตัดสินใจแล้วก็ไม่ว่ากัน”
ยังไม่นับ ตัวละครหลักในเพื่อไทย “ถูกจับย้าย” ที่ไม่ย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) อันเป็นพรรคไว้เก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์ เพราะคำนวณสูตรเลือกตั้งแล้ว เพื่อไทยจะไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์เหลืออยู่
เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง-ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ-พิชัย นริพทะพันธุ์-เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช บวก 2 กรรมการบริหารพรรคที่ลาออกจากเพื่อไทย คือ “เกรียง กัลป์ตินันท์-อนุตตมา อมรวิวัฒน์”
ผลจากเลือดไหล “ทักษิณ” ต้องส่งยาห้ามเลือดฉุกเฉินขนานพิเศษ “พานทองแท้ ชินวัตร” ลูกชายคนเดียว มาการันตีความสำคัญของเพื่อไทย โดยสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมประกาศบนเฟซบุ๊กว่าจะช่วยเพื่อไทยหาเสียงทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ แผนการ “ทักษิณ” ในการสู้ศึกเลือกตั้ง สับขาหลอกกันหลายตลบ จนกำเนิดพรรคย่อย ๆ ต่อยอดจากเพื่อไทยอีก 4 พรรค ไทยรักษาชาติ ประชาชาติ เพื่อธรรม เพื่อชาติ จนคนในเพื่อไทยสับสน
ก่อนจะมาลงตัว ใช้งานจริงแค่ 2 พรรค คือ พรรคหลักเป็น “เพื่อไทย” พรรครองเป็น “ไทยรักษาชาติ”
การปรากฏตัวเป็นสมาชิกพรรคของ “พานทองแท้” จึงกลายเป็นไพ่ที่ “ทักษิณ” ใช้ยามคับขัน กันไม่ให้คนเพื่อไทยที่ยังปักหลักอยู่ ขวัญกระเจิงย้ายพรรคตามกันไปอีก เพราะข่าวลือยุบพรรคลอยมาเป็นระลอก
ช่วงที่ฝุ่นตลบในเพื่อไทยระลอกแรก หลังข่าวการก่อตั้ง “เพื่อธรรม-ไทยรักษาชาติ” ปรากฏสู่สายตา ส.ส.ในพรรค ทำให้คนในพรรคอ่านทิศทางลมว่า “ทักษิณ” ผู้เป็น “นายใหญ่” จะตัดสินใจให้พรรคไหนนำ-พรรคไหนตาม
นักการเมืองค่ายเพื่อไทย หลายคนประเมินจากท่าที “ครอบครัวชินวัตร” ที่ประกาศว่าจะยกครอบครัวมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าจะมา สมัครสมาชิกพรรควันไหน แต่หลังจากนั้นกระแสข่าวก็ถูกกลบกลายมาเป็น กลุ่มหลาน ๆ เครือข่ายของลูกทักษิณ เทไปอยู่ ทษช.แทน
แต่เมื่อ “ทักษิณ” เริ่มจนแต้ม ไพ่ “พานทองแท้” ก็ถูกใช้…อีกครั้ง
แหล่งข่าวเพื่อไทยที่อยู่ในวงประชุมแกนนำ ประเมินสถานการณ์ในเพื่อไทย-ทษช. ในเวลานี้ว่า
“เพื่อไทยยังคงเป็นพรรคหลักต่อไป เพราะมี ส.ส.เขต ประมาณ 200 คน ที่ไม่ไปไหน และยังเป็นพรรคที่เก็บแต้ม ส.ส.ได้จำนวนมาก ส่วน ทษช.เป็นพรรครองเก็บปาร์ตี้ลิสต์ และจะไม่มีแกนนำเพื่อไทยไปสังกัดเพิ่มเติม จากที่ปรากฏตัวอยู่ก่อนหน้านี้”
สกัดเลือดไหลออก-ยุติการกระจาย กำลังไปอยู่พรรคแนวร่วม
ไม่ปล่อยให้เพื่อไทย กลายเป็นพรรคร้าง-ไร้บุคคลการเมืองระดับบิ๊ก
สถานะของโอ๊ค-พานทองแท้ จึงกลายเป็นร่มเงาใหญ่ในพรรคเพื่อไทย