‘วิษณุ’ แจงคำสั่งปลดล็อก ทำกิจกรรม หาเสียง-ขึ้นป้ายคัตเอาต์ได้ จนกว่ามีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 11 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่ง คสช.ที่ 22 /2561 เรื่อง การให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า ขณะนี้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทุกอย่าง ส่วนที่ต้องแก้ไขคำสั่งทั้ง 9 ฉบับนั้น มีคำสั่งที่เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมทางการเมืองเพียง 2 ฉบับ ส่วนที่เหลือเกี่ยวกับการรายงานตัวและเรื่องธุรกรรมทางการเงิน ตอนนี้พรรคการเมืองสามารถลงพื้นที่พบปะประชาชนได้ ส่วนเรื่องการหาเสียง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ระบุว่าการหาเสียงจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อมี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งออกมา ส่วนจะหาเสียงอย่างไรให้เป็นไปตามวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ดังนั้นในช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ก็สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ และไม่ถือว่าเป็นการหาเสียง

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองจัดเวทีปราศรัยหรือเรียกประชุม ส.ส.โดยไม่ต้องขอ คสช.ได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถทำได้ อยากทำอะไรก็ทำไป และถ้าจะพูดว่าห้ามหาเสียงก็เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะหากพบว่าหาเสียงแล้วก็ยังไม่มีกฎหมายมาห้ามไว้ เอาเป็นว่าสิ่งที่เรียกว่าหาเสียงจะเริ่มก็ต่อเมื่อมี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ทุกอย่างจะเข้าสู่ระบบและจะเริ่มคิดค่าใช้จ่ายกันตั้งแต่วันนั้น อะไรที่เคยคิดว่าอิสระ ก็ต้องมาดูแล้วว่ากติกาการหาเสียงเป็นอย่างไร ขณะนี้ถือว่ายังไม่มีกฎเกณฑ์อะไร

“พูดง่ายๆ ว่าวันนี้คุณจะขึ้นป้ายคัตเอาต์อะไรก็สามารถทำได้ แต่เมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ก็ต้องเอาลง ตอนนี้ทำกิจกรรมทุกอย่างได้ ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น เรื่องรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสงบเรียบร้อย” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามย้ำว่าคำสั่งปลดล็อกฉบับนี้ถือว่าเป็นการปล่อยผีให้พรรคการเมืองใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่คุณจะเรียก เพราะปล่อยหมดแล้วจนไม่มีอะไรเหลือ และถือว่าดีกว่าช่วงที่ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งเสียอีก เพราะต้องเข้าไปอยู่ในกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าเวลานี้พรรคการเมืองแต่ละพรรคสามารถบอกได้เลยใช่หรือไม่ว่าจะสนับสนุนให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี นายวิษณุกล่าวว่า อยากจะพูดก็พูดไป

เมื่อถามถึงกรณีข้อกังวลการตัดโลโก้และชื่อพรรคออกจากบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความสับสน นายวิษณุกล่าวว่า ตนทราบข้อกังวล แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของ กกต. รัฐบาลไม่ควรไปพูดอะไร และยืนยันรัฐบาลไม่เคยพูด ไม่เคยสั่งอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเหตุการณ์ในการประชุมระหว่าง คสช.กับพรรคการเมือง มีคนพูดถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความสับสนเรื่องบัตรเลือกตั้งที่แต่ละเขตใช้เบอร์ไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรีจึงได้กล่าวสรุปตอนจบว่า หากกลัวว่าเบอร์จำไม่ได้ ก็ต้องหาทางจำให้ได้ ซึ่งต้องเป็นเรื่องของผู้สมัครเองที่ต้องช่วยรณรงค์เรื่องนี้ให้ด้วย ส่วนที่ฝ่ายการเมืองเสนอให้แก้ไขมาตรา 48 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศนั้น หากจะยื่นเรื่องคงต้องยื่นมาที่ คสช.ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ปัญหา หากใช้กระบวนการตามกฎหมายปกติจะยากลำบาก เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทำได้ แต่เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

 

 

ที่มา  มติชนออนไลน์