กกต.จัดสาธิตลงคะแนนเลือกตั้งแยกเบอร์รายเขต สะท้อนปัญหา-ข้อบกพร่อง ไร้เงา”กรธ.-สนช.-เอนก”

กกต. จัดสาธิตลงคะแนนลต. แยกเบอร์ รายเขต สะท้อนปัญหา -ข้อบกพร่อง ไร้เงา”กรธ.-สนช.-เอนก” ร่วมสังเกตการณ์ สมชัย ห่วงพิมพ์บัตร ตจว.เสี่ยงเจอบัตรปลอม ชี้ บัตรเลือกตั้งพิมพ์แค่เบอร์ไม่ได้ อาจถูกฟ้องโมฆะ

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. จัดสาธิตการลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.รูปแบบแยกเบอร์รายเขตตามแนวคิดของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยจำลองหน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ ซึ่งจะพิมพ์ทั้งชื่อ นามสกุลผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลขผู้สมัคร ชื่อพรรคและโลโก้พรรค พร้อมสาธิตขั้นตอนการลงคะแนนตั้งแต่การลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์โดยใช้คิวอาร์โค้ด การใช้สมาร์ทการ์ด การพิมพ์ซองใส่บัตรเลือกตั้ง ที่ผู้ใช้สิทธิจะต้องนำบัตรลงคะแนนของตนใส่ลงไปในซองก่อนหย่อนในหีบเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งการจ่ายบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ โดยในการสาธิตครั้งนี้ไม่ปรากฏว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองของรัฐบาล เข้าร่วมส้งเกตุการณ์ตามคำเชิญของนายสมชัย แต่อย่างใด มีเพียงนายพงศ์กิตติ อรุณภักดีสกุล รองเลขาธิการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตัวแทนพรรคการเมืองขนาดเล็ก ตัวแทนมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น โดยส่วนใหญ่สะท้อนว่าระบบใหม่ที่กรธ.กำหนดจะสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน และอาจเกิดปัญหาในเรื่องการรวมคะแนนเพราะเป็นระบบแยกเบอร์รายเขต ไม่ใช่ระบบพรรคเดียวเบอร์เดียวเหมือนที่เคยปฏิบัติ และอยากให้ กรธ.ทบทวนแนวคิดนี้

จากนั้น หลังเสร็จสิ้นกระบวนการสาธิตการเลือกตั้ง นายสมชัย ได้นำบัตรเลือกตั้งทั้ง 350 แบบ มาวางประกอบการแถลงข่าวว่า การสาธิตการลงคะแนนครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงหากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเลือกตั้งมาเป็นแยกเบอร์รายเขตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร บัตรเลือกตั้งที่ใช้แต่ละเขตจะมีความแตกต่างกัน อาจต้องแยกพิมพ์ในโรงพิมพ์ต่างจังหวัดแทนโรงพิมพ์ส่วนกลางที่เดียว เกิดผลเสียเรื่องมาตรฐานของบัตร ระดับการรักษาความปลอดภัยของบัตรเพื่อป้องกันบัตรปลอมอาจทำไม่ได้ ส่งผลให้อาจเกิดปัญหาบัตรปลอมในวันเลือกตั้งจริงได้ ทั้งนี้ กกต.เกรงปัญหาบัตรปลอมมากที่สุด เพราะการโกงเลือกตั้งจากบัตรปลอมเพียงใบเดียวทำได้ง่ายมาก การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งจะเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งจริง 7 วัน หากผู้ที่มาใช้สิทธิไม่นำบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของตนใส่ซองไปหย่อนในหีบบัตร แต่เอาบัตรออกมาจากหน่วย แล้วมาทำปลอม บัตรคุณภาพต่ำ 7 วันสามารถทำได้สบายมาก พอถึงวันเลือกตั้งจริงหลังเปิดการลงคะแนน ก็เอาบัตรปลอมใบหนึ่งให้ผู้ที่เข้าไปขอใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งนำไปใส่หีบบัตรเลือกตั้ง แล้วนำบัตรจริงที่ได้รับกลับออกมานอกหน่วยให้หัวคะแนนกากบาทบัตรจริง จากนั้นก็ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกคนนำกลับเข้าไปลงคะแนนแล้วเวียนเอาบัตรจริงออกมาอีก ก็จะทำให้เกิดการเวียนลงคะแนนได้ตลอดการเลือกตั้ง ในขณะที่จะปรากฏบัตรปลอมเพียงแค่ใบเดียวต่อหน่วยเลือกตั้งเท่านั้นแต่สามารถเปลี่ยนผลคะแนนเลือกตั้งได้”

นายสมชัย กล่าวต่อว่า การที่กฎหมายออกแบบให้ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องเลือกทั้งผู้สมัคร และพรรค ดังนั้นลักษณะภายในบัตรจะต้องเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิจึงต้องมีอย่างน้อยหมายเลขผู้สมัคร และชื่อพรรค ส่วนโลโก้จะมีหรือไม่ก็ได้ แต่จะมีเพียงหมายเลขผู้สมัครเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งกกต.ชุดใหม่ก็ต้องระวัง หรือถ้าวันหนึ่งใครอาจหาญพิมพ์แค่เบอร์ผู้สมัครเพียงอย่างเดียว ก็เตรียมถูกฟ้องแพ่งให้รับผิดชอบต่อค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเป็นโมฆะ ส่วนถ้ากรธ.ยืนยันที่จะใช้รูปแบบดังกล่าวในการเลือกตั้ง ทางกกต. ก็พร้อมที่จะหาวิธีการเพื่อที่ทำให้จัดการเลือกตั้งได้ แม้จะมีความยุ่งยากในส่วนอื่น เช่นการจัดจุดเปิดรับสมัคร 350 จุด การนับคะแนนรวมในระดับจังหวัด ซึ่งก็ยังถือว่าเดือดร้อนน้อยกว่า ประชาชนที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะรู้สึกสับสน หรือพรรคการเมืองที่เดือดร้อนมากที่สุด เพราะไม่รู้จะหาเสียงอย่างไร เนื่องจากไม่สามารถบอกได้เลยว่าพรรคของตนหมายเลขอะไร ขณะที่กกต.ชุดใหม่มีคุณสมบัติขั้นเทพ ก้เชื่อว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ แต่ทั้งนี้กกต.ชุดปัจจุบันก็จะได้นำผลสรุปและปัญหาต่างๆ ส่งมอบให้กับกกต.ชุดใหม่ได้พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

“การสาธิตในช่วงที่กฎหมายยังไม่ออกเป็นเรื่อง จำเป็น เพราะต้องการให้สร้างเครื่องบินเสร็จแล้วบินได้ ไม่ใช่บินแล้วพาคนไปตาย แต่ต้องการให้มีการตรวจสอบว่าเครื่องบินขนคนไปถึงที่หมายได้จริง แม้ว่าคนออกแบบเครื่องบินไม่มาในวันนี้ อาจเป็นเพราะยังติดภารกิจในการออกแบบจรวดนำวิถี หรือขีปนาวุธที่สำคัญกว่า แต่อยากให้มีการไตร่ตรองจากปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไข เพราะแนวคิดนี้มีปัญหาในหลายจุด และสร้างภาระให้กับทั้งประชาชน รวมทั้งไม่มีใครรับประกันได้ว่าการทำระบบนี้จะป้องกันการซื้อเสียงได้ ส่วนเมื่อสะท้อนปัญหาแล้วกรธ.จะปรับปรุงหรือไม่ ไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะถ้าทำสาธิต รู้ปัญหาขนาดนี้หูหนวก ตาบอด ไม่รับฟังก็เท่ากับเป็นการสะท้อนความพิการในการรับรู้ของท่านเอง”

 

ที่มา มติชนออนไลน์