ก้าวสู่ปีที่ 42 ของ”มติชน”

วันที่ 9 มกราคม 2562 - 12:47 น.

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2562ที่อาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) มีการจัดงานวันเกิดครบ 41 ปี ก้าวสู่ปีที่ 42 ของหนังสือพิมพ์มติชน นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ, นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ รองประธานกรรมการ, นางสาวปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด, นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์มติชน พร้อมด้วยผู้บริหารในเครือมติชน ให้การต้อนรับตัวเเทนจากภาครัฐและเอกชนร่วมแสดงความยินดี

อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำรุ่นใหม่และว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรรคประชาธิปัตย์, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคพลังประชารัฐ, พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ),นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เป็นต้น

โดยนายอุตตม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่หนังสือพิมพ์มติชนก้าวสู่ปีที่ 42 ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ขออวยพรให้หนังสือพิมพ์มติชนก้าวหน้าต่อไป เป็นหนึ่งในหลักใหญ่ของวงการสื่อของไทยต่อไป

ขณะที่นายพริษฐ์กล่าวอวยพรว่า ขอสุขสันต์วันเกิดก้าวสู่ปีที่ 42 ของหนังสือพิมพ์มติชน ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง ตนชื่นชมงานของสื่อทุกสำนักเพราะมองว่าประชาธิปไตยที่เข้มแข็งนั้น ต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีสื่อที่เป็นอิสระ เป็นกลางและกล้าตั้งคำถามตรวจสอบต่ออำนาจของรัฐบาลเพื่อเป็นตัวแทนของภาคประชาชน “ขอให้มติชนมุ่งมั่นทำหน้าที่ในการตั้งคำถามต่อไป และเราก็จะมุ่งมั่นในการตอบคำถามเช่นกัน” นายพริษฐ์กล่าว

ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวแสดงความยินดีกับมติชน พร้อมระบุว่า ยินดีด้วยที่มติชนย่างก้าวเข้ามาสู่ปีที่ 42 ขอให้เป็นสื่อที่งดงามอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป ตนยังเป็นแฟนเหนียวแน่นของมติชน

ในโอกาสวันเด็กที่จะถึงนี้ น.ส.กัญจนาฝากส่งสารถึงเด็กๆ ว่า ขอให้เรียนหนังสือให้ดี มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง สิ่งแวดล้อม อย่ามัวหมกมุ่นกับอินเตอร์เน็ตเกินไป เพราะสิ่งเหล่านั้นเลือกคัดกรองเพียงบางช่วง แต่เดี๋ยวนี้เป็นสังคมที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างมาก และขอให้เติบโตเป็นอนาคตที่สวยงามของประเทศชาติ

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 42 ปีมติชน ถ้าเป็นคนก็ถือได้ว่าเป็นผู้รู้รอบด้าน ทั้งมีประสบการณ์ ความรู้ความสนใจในทุกบริบทของสังคมไทย เป็นก้าวแรกที่สำคัญของหนังสือพิมพ์มติชนที่เปรียบเสมือนสื่อหลักของสังคมไทยและได้รับการยอมรับจากการที่ได้ทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์ ขออวยพรให้หนังสือพิมพ์มติชน และเครือมติชนเจริญไปข้างหน้า เป็นฐานทางปัญญาเป็นภูมิคุ้มกันให้พี่น้องประชาชนเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เป็นเสาหลักเพื่อเป็นหนังสือพิมพ์และสื่อหลักของประเทศไทยที่จะให้คนไทยมีความรู้ความคิดเท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และขอให้หนังสือพิมพ์มติชนยืนคู่กับสังคมไทยตลอดไป

ด้านนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองเอเชีย(APRC) กล่าวในโอกาสที่มติชนก้าวสู่ปีที่ 42 ว่า ขอให้มติชนเป็นที่พึ่งเป็นหลักคิดให้กับประชาชน เป็นที่รักของประชนอย่างที่เป็นมากว่า 40 และในอีกหลายสิบปีข้างหน้า

“ผมอยากจะให้มติชนก้าวไปข้างหน้ากับยุคเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่าปั่นป่วนโลก ซึ่งมติชนก็ถือว่าทำได้ดีในเรื่องที่เกี่ยวกับออนไลน์และดิจิทัลทั้งหลาย ขระเดียวกันก็ไม่อยากให้มติชนทิ้งเรื่องสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะผมคิดว่าหนังสือพิมพ์ยังมีค่าเป็นสิ่งที่เราอ่านแล้วได้ความรู้สึกที่แตกต่างจากออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพาดหัวทำให้รู้ว่าข่าวไหนเป็นข่าวสำคัญมาก ข่าวไหนเป็นข่าวสำคัญน้อย หรือเป็นข่าวย่อย ยังมีบทความต่างๆในหนังสือพิมพ์ ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีค่าในการเตือนสติสังคม ในการชี้นำสังคม และทำให้เราเข้าใจสังคมได้มากขึ้น ซึ่งความรู้สึกหลายอย่างเหล่านี้ในออนไลน์ไม่สามารถให้เราได้มากเท่ากับหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้นในเรื่องของหนังสือพิมพ์ที่ทำดีแล้วก็อยากให้ทำต่อไป รวมถึงตัวหนังสือและพ็อกเก็ตบุ๊กด้วย” นายสุรเกียรติ์ ระบุ

ส่วน นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวว่า ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ไม่เพียงเฉพาะชาวมติชน เพราะเราได้มีสื่อที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะหนังสือของเครือมติชน เป็นหนังสือที่ดี มีความงาม เพราะเสนอด้วยความจริงใจ ด้วยความโปร่งใสและตรงไปตรงมา เป็นสื่อที่ไม่มีเอียงข้าง และมีเป้าหมายเดียวคือเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารที่เป็นจริง ถือว่าเป็นความดีงามและเป็นความภูมิใจของคนไทยเองที่มีสื่อที่มีคุณภาพและมาตรฐานแบบนี้

“ตอนนี้เครือมติชนไปไกลมากในเรื่องของดิจิทัล มีข่าวออนไลน์ที่รวดเร็วและทันสถานการณ์มาก อยากให้เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องไม้เครื่องมือที่จะนำข่าวสารเผยแพร่ออกไปได้มากขึ้น เร็วขึ้น และทันต่อสถานการณ์ทั่วโลก ซึ่งการพัฒนาเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะยุคนี้เป็นยุคที่มีการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้สื่อมีความเร็วมากขึ้น” นายพินิจกล่าว และว่า ผมเองก็ติดตามหนังสือพิมพ์มติชนมาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ตั้งแต่ต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน ก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เครือมติชนยืนหยัดในคุณธรรมในความซื่อสัตย์ต่อประชาชนและสังคม สำหรับผมมติชน 42 ปีถือว่าเพิ่งเริ่มต้นแตกเหนือหนุ่มเป็นวัยรุ่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นมติชนยังไปได้อีกยาวไกลในอนาคต